www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ตลาดเงียบรอรัฐรับจำนำข้าว ธ.ก.ส.ยอมโรงสีงดสต๊อก 50%

     หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวร่วมกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ตั้งแต่ 15 มิถุนายน-15 กันยายนนี้ ด้วยระดับราคารับจำนำ 14,000 บาทต่อตัน (ความชื้น 15%) ส่งผลให้ผู้ส่งออกหยุดรับซื้อข้าวจากโรงสี โดยให้เหตุผลว่าราคาจำนำสูงกว่าราคาตลาดถึง 2,000-3,000 บาทต่อตัน ผู้ส่งออกต้องหันกลับมาใช้ข้าวในสต๊อกเดิมที่เคยซื้อไว้

     ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณข้าวจะไหลเข้าสู่โครงการรับจำนำมากกว่ารัฐบาลคาดไว้ 1 ล้านตัน จากปริมาณผลผลิตข้าวนาปรังที่คาดว่าจะออกสู่ตลาด 2.5 ล้านตัน และที่สำคัญประเด็นนี้จะกลายเป็นตัวแปรที่ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับโรงสีในการยื่นข้อเสนอกับ ธ.ก.ส.เพื่อยกเลิกเงื่อนไขการเก็บสต๊อกข้าวซื้อปกติจากชาวนา 50% ของกำลังการผลิต เพราะโรงสีเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการรับจำนำในช่วงที่ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้น

     แหล่งข่าวจากกลุ่มโรงสีกล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ราคารับจำนำในประเทศ "สูงกว่า" ราคาตลาด ทำให้กลไกทางการตลาดปกติหยุดชะงัก ช่องทางเดียวที่ยังรับซื้อข้าวอยู่ตอนนี้คือ โครงการรับจำนำข้าว อย่างไรก็ตาม กลุ่มโรงสีส่วนใหญ่ยังไม่พอใจกับหลักเกณฑ์ที่ ธ.ก.ส.กำหนด ทำให้จำนวนโรงสีซึ่งถือเป็นจุดรับจำนำข้าวที่สำคัญ เข้าร่วมโครงการไม่มาก

     ดังนั้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงมีการหารือกันระหว่างคณะทำงานรับจำนำ ซึ่งมีนายธีระพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เป็นประธาน รับข้อเสนอของโรงสีในหลายเรื่อง คือ 1) เพิ่มความถี่ในการสีแปรสภาพเป็นทุก 7 วัน จากเดิมกำหนดให้สีแปรทุก 3-4 เดือน แต่โรงสีให้เหตุผลว่า เก็บข้าวเปลือกไว้นานเกินไปอาจจะทำให้เสื่อมคุณภาพ และแปรสภาพเร็ว ทำให้หมุนเวียนเงินได้เร็วขึ้น

     2) เพิ่มอัตราค่าสีแปรเป็น 550 บาทต่อตัน จากเดิม 400 บาทต่อตัน 3) ยกเลิกเงื่อนไขที่กำหนดให้โรงสีที่สมัครเข้าร่วมโครงการต้องสต๊อกข้าวจากเกษตรกร 50% แต่ให้เพิ่มวงเงินค้ำประกัน (แบงก์การันตี) 40% ของมูลค่าข้าวแทน เพราะต้นทุนราคาข้าวรับจำนำสูงขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ราคารับจำนำต่ำกว่าราคาตลาด โดยจะเสนอต่อบอร์ดดูแลการรับจำนำ ที่มี น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาต่อไป นอกจากนี้ทางสมาคมโรงสียังเสนอให้กำหนดอัตราค่าขนส่งให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นด้วย ซึ่ง ธ.ก.ส.รับเรื่องเงื่อนไขนี้ไปพิจารณา

     นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ กรรมการสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ทางสมาคมโรงสีพอใจกับการทำงานของ ธ.ก.ส. ที่ยอมรับเงื่อนไขสอดคล้องกับสถานการณ์ จึงได้ส่งรายชื่อสมาชิกที่พร้อมเข้าร่วมโครงการไปแล้วประมาณ 200 ราย เพื่อให้ อคส.และ อ.ต.ก.ตรวจสอบว่าอยู่ในแบล็กลิสต์หรือไม่

     แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว กล่าวว่า หากยกเลิกการสต๊อกข้าวแล้ว ธ.ก.ส.ต้องระวังปัญหาที่จะเกิดขึ้นเพราะการแข่งขันซื้อข้าวในตลาดจะหยุดทันที เพราะโรงสีไม่จำเป็นต้องแย่งซื้อข้าวกับรัฐบาล ซึ่งเท่ากับเปิดช่องให้โรงสีกดราคารับซื้อได้ เพราะขณะนี้ราคาข้าวเปลือกในตลาดปกติปรับขึ้นเล็กน้อยอยู่ระหว่าง 11,500-13,800 แต่ต่ำกว่าราคาจำนำที่กำหนดไว้ 14,000 บาท คาดว่ารัฐบาลต้องขาดทุนจากต้นทุนราคาข้าวรวมค่าบริหารจัดการ จัดเก็บ ซึ่งอยู่ที่ 216 บาทต่อตันต่อเดือน ค่าสีแปรสภาพอีก 550 บาทต่อตัน คิดเป็นการขาดทุนตันละ 3,000-4,000 บาท

     นายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธานกรรมการ บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ส่งออกข้าวในช่วงนี้ชะลอตัว ต้องรอผลการเจรจาซื้อขายข้าวระหว่างรัฐบาลไทยกับอินโดนีเซีย (จีทูจี) ซึ่งคาดว่าจะสั่งซื้อปริมาณ 1 ล้านตัน เป็นข้าวขาว 5% และข้าวขาว 15% ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามไทยต้องแข่งขันกับเวียดนามและปากีสถาน นอกจากนี้ผู้ส่งออก 4-5 ราย เตรียมจะเดินทางร่วมกับอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเพื่อพบปะเจรจากับหน่วยงาน GTC ของอิหร่านปลายเดือนนี้ หลังจาก GTC แจ้งความประสงค์ว่าต้องการซื้อข้าวมาเมื่อ 2 เดือนก่อน

     ในส่วนของผู้ส่งออกรายใหญ่มีการเก็บ สต๊อกข้าวไว้เพื่อเตรียมสำหรับขายจีทูจีฟิลิปปินส์ แต่เมื่อรัฐบาลไทย ไม่เข้าร่วมประมูล รวมกับออร์เดอร์มาเลเซีย ที่เดิมคาดว่าจะสั่งซื้ออีก 3 แสนตัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะสั่งซื้อจากไทยหรือเปลี่ยนไปซื้อจากประเทศผู้ส่งออกข้าวรายอื่น ทำให้ผู้ส่งออกรายใหญ่ไม่จำเป็นต้องมารับซื้อข้าวจากโรงสี

ั้ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.