www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ตั้งเป้าส่งออกข้าว 8.8 ล้านตัน ระวัง! ค่าเงินบาท และค่าระวางเรือ


     "ข้าว" ถือเป็นสินค้าส่งออกหลักที่มีความสำคัญ เกี่ยวข้องกับคนจำนวนหลายล้านคนทั่วประเทศ ในปี 2551 นับว่าเป็นอีกปีที่คาดว่าสินค้า "ข้าว" จะดีต่อเนื่องจากปี 2550 ที่การส่งออกข้าวสูงถึง 9.2 ล้านตัน สูงเกินเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์วางไว้ที่ 8.5 ล้านตัน ที่สำคัญไม่ได้เพิ่มเพียงแค่ปริมาณ แต่ยังเพิ่มทั้งในด้านมูลค่าอีกด้วย ดังนั้นปีหน้ายุทธศาสตร์ข้าวถือว่าเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์ "วิจักร วิเศษน้อย" รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวในปี 2551

แนวโน้มราคาข้าวในปี 2551

     ในเบื้องต้นมองว่า ราคาข้าวในตลาดโลกจะดีต่อเนื่องในปี 2551 อย่างไรก็ตามต้องประเมินสถานการณ์ทุก 3-4 เดือน เพราะมีสินค้าเกษตรที่เป็นทางเลือกอื่นและสามารถทดแทนกันได้ หากราคาข้าวขึ้นสูงเกินไป ผู้ซื้อก็รับไม่ได้ หันไปซื้อพืชเกษตรตัวอื่นทดแทน ในฐานะผู้ขายจึงต้องระวัง คอยดูแลราคาให้สมเหตุสมผล เพื่อไม่กระทบตลาดในระยะยาวเรายังต้องรักษาลูกค้าประจำ ที่ผ่านมาราคานับว่าสูงขึ้น โดยหลังระบายข้าว 5 แสนตัน ราคาขึ้นมา 4-5 เหรียญสหรัฐ แต่ตอนนี้ยังไม่คิดระบายอีก

     สำหรับราคาข้าวหอมมะลิ เอฟ.โอ.บี. ขณะนี้เพิ่มขึ้นถึง 618-620 เหรียญสหรัฐต่อตัน ฉุดราคาในประเทศสูงถึง 1,950-2,000 บาทต่อกระสอบ เป็นผลจากปริมาณข้าวหอมมะลิลดลง 20-30% เพราะเกษตรกรหันไปปลูกข้าวเหนียวซึ่งมีราคาดีในปี 2550 แม้ว่าราคาข้าวจะสูง แต่นโยบายรับจำนำยังต้องมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ต้องไม่กำหนดราคาสูงจนบิดเบือนกลไกตลาด ไม่เช่นนั้นจะกระทบผู้ส่งออกทำให้ได้รับผลกระทบจากต้นทุนสูงขึ้น

เป้าหมายการส่งออกข้าวปี 2551

     เรามองเป้าส่งออกข้าวไว้ที่ 8.7-8.8 ล้านตัน หากถึง 9 ล้านตันคงหืดขึ้นคอแล้ว เพราะเราไม่มีสต๊อก carry over มา ส่วนที่ปี 2550 ส่งออกได้ถึง 9 ล้านตัน เพราะตอนต้นปีเรามี สต๊อกเกือบ 6 ล้านตัน ช่วงนั้นราคารับจำนำสูง ข้าวไหลเข้าสต๊อกมาก แต่ปีนี้สต๊อกที่เหลือไม่ถึง 2 ล้านตัน และเป็นข้าวใหม่ทั้งนั้น ส่วนข้าวจากโครงการรับจำนำปี 2550/51 มีเพียง 30,000 ตันเท่านั้น ทั้งหมดต้องเก็บสำรองไว้สำหรับการบริโภคภายในประเทศเผื่อมีกรณีฉุกเฉิน เช่น ที่อินเดีย และเวียดนาม ห้ามส่งออก เพราะกลัวไม่มีบริโภค

     สถานการณ์ผลผลิต-บริโภคข้าวโลกใน ปี 2551 ผมเชื่อว่าเทรนด์ยังเป็นของผู้ขาย ผลผลิตข้าวโลกเพิ่มขึ้น บางประเทศดีขึ้น เช่น อินโดนีเซีย จีน แต่หลายประเทศยังมีปัญหา เช่น อินเดีย คนหันไปปลูกข้าวฟ่าง รัฐบาลจึงหันมาสนับสนุนให้ปลูกข้าวมากขึ้น เพราะกลัวไม่มีข้าวกิน เลยห้ามส่งออกข้าวขาว และขึ้นราคาประกันข้าว ทำให้ข้าวในตลาดโลกมีน้อย ทั้งนี้คาดว่าผลผลิตข้าวในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านตัน จาก 418 ล้านตัน เป็น 421 ล้านตัน แต่ความต้องการในตลาดโลก จาก 418 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6 ล้านตัน เพิ่มสูงกว่าปริมาณข้าวเป็นเท่าตัว ทำให้ตลาดยังเป็นของผู้ขายอยู่ ประกอบกับอินเดียยังหยุดส่งออกซึ่งจะส่งผลดีกับไทยตั้งแต่ต้นปี-กลางปี 2551 โดยเฉพาะตลาดข้าวนึ่งของอินเดีย คือ แอฟริกา ซึ่งมีความต้องการข้าวเกือบล้านตัน จะหันกลับมาซื้อจากไทย

ปัจจัยเสี่ยงของการส่งออกข้าว

     ถึงแม้ว่าทุกอย่างยังมีทิศทางที่ดี แต่ยังประมาทปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของค่าเงินบาทและค่าระวางเรือไม่ได้ เพราะผู้ส่งออกจะต้องเผชิญกับปัญหาค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ค่าระวางเรือปรับสูงขึ้น 30-40% ซึ่งในปี 2551 เราต้องคอยประเมินข้อมูลของเวียดนามว่าจะเป็นอย่างไร เท่าที่ได้รับทราบข้อมูลคาดว่าจะส่งออก 4.5 ล้านตัน ผลผลิต 36 ล้านตันข้าวเปลือก กินประมาณครึ่งหนึ่ง คิดว่าอยู่ที่ 4.5 เหมือนปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังต้องดูว่ามีภัยธรรมชาติหรือไม่ เช่น ฟิลิปปินส์ ที่เป็นเกาะมีมรสุมทุกปี หากมีภัยธรรมชาติมีแนวโน้มที่จะนำเข้า

     ตลาดหลักในปีหน้ายังเป็นแอฟริกา ก่อนหน้านี้ข้าวนึ่งที่ถูกอินเดียแย่งตลาดไปเมื่อ ปี 2548 แต่เราได้ตลาดข้าวนึ่งกลับมาในปีนี้ เพราะอินเดียไม่ส่งออก ส่วนตลาดข้าวขาวก็ยังเป็นตลาดตะวันออกกลาง เช่น อิรัก อิหร่าน ซึ่งยังคงมีปัญหาการแซงก์ชั่นจากความขัดแย้งทางด้านการเมือง และเราได้ตลาดใหม่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา คือ ตลาดสหภาพยุโรป จาก 3 แสนตันเพิ่มเป็น 4 แสนตัน เพราะสหภาพยุโรปยกเลิกนำเข้าจากสหรัฐ หลังตรวจสอบพบข้าวจีเอ็มโอ ส่วนตลาดเอเชียน่าจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 3 ล้านตัน จาก 2.7 ล้านตัน

ยุทธศาสตร์การทำตลาดข้าวไทยในปีหน้า

     กรมจะเน้นการโปรโมตข้าวหอมมะลิและข้าวอินทรีย์ ในส่วนของข้าวกรมจะดำเนินการร่วมกับจังหวัด ในยกระดับแบรนด์ข้าวหอมมะลิ ส่วนข้าวอินทรีย์ก็มีแนวโน้มที่ดี แต่ขยายตัวช้ากว่า ในปีนี้ยังมีการส่งออกไม่ถึง 10,000 ตัน จึงต้องเพิ่มการโปรโมตในส่วนของคนผู้ผลิตให้เข้าใจถึงวิธีการผลิตข้าวอินทรีย์ แต่ในส่วนตลาดข้าวไม่มีปัญหา กรมจะประสานงานร่วมกับภาคเอกชน และกรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ยุโรปและเอเชีย เพื่อจัดส่งวิทยากรมาประชุมเชิงวิชาการร่วมกัน เพื่อให้เกษตรกรได้รับทราบว่ามาตรฐานข้าวอินทรีย์ที่ตลาดคู่ค้าต้องการควรเป็นอย่างไร เพื่อให้ข้าวอินทรีย์เป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม นิชมาร์เก็ตต่อไป

์ ที่มา ประชาชาตธุรกิจ

 


©
The Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2006 All rights reserved by The Rice Exporters Association.