www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ส่งออกข้าวไทยวูบหลังจีนระบายสต๊อกในประเทศ


      นางสาวณัฐฐิรา ลิ่ววรุณพันธ์ รองผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" หลังจาก อคส.เดินทางไปสำรวจตลาดข้าวมณฑล เฉิงตู ประเทศจีน เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่าปีนี้สถานการณ์การส่งออกข้าวไปยังประเทศจีนน่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากรัฐบาลจีนได้มีนโบยายระบาย สต๊อกข้าวภายในที่ใช้สำรองเพื่อการบริโภค 7 เดือน ออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้ผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนกลาง และตอนใต้ของจีน ซึ่งรวมถึงมณฑลเฉิงตูด้วย ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศจีนมีการปรับลดราคาลง ผู้นำเข้าได้ชะลอการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศซึ่งมีระดับราคาแพงกว่าข้าวภายใน

     อย่างไรก็ตาม ไทยจะต้องติดตามสถานการณ์ผลผลิตของจีนอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถฟื้นฟูพื้นที่เพาะปลูกข้าวได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ อาจจำเป็นต้องนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นได้ ในส่วนของผู้นำเข้าข้าวถุงจาก อคส.ในจีน ได้เร่งระบายข้าวที่นำเข้าไปเก็บสต๊อกไว้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และยังไม่ได้สั่งซื้อต่อ เนื่องจากข้าวไทยราคาแพง

     "อคส.เพิ่งเปิดตลาดข้าวถุงไปจีนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยส่งข้าวให้กับผู้นำเข้าจีนประมาณ 120 ตันต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไม่มาก แต่ทาง อคส.ได้เตรียมทางรับมือโดยการเจรจากับภัตตาคารอาหารในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อส่งข้าวไปกระจายในเครือข่ายร้านอาหาร คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีอีกทางหนึ่งของข้าวถุง อคส." นางสาวณัฐฐิรากล่าว

     ด้านนายสุเมธ เหล่าโมฬาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจีนระบายสต๊อกข้าวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ทางตอนกลางและทางใต้ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวสำคัญ แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เพราะยังมีการนำเข้าข้าวไปยังพื้นที่ส่วนอื่นของจีนอยู่ตามปกติ อย่างไรก็ตามต้องติดตามประเมินสถานการณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการนำเข้าข้าวสูงของจีนในแต่ละปี ราวเดือนตุลาคม-ธันวาคม เพื่อเตรียมการรองรับเทศกาลตรุษจีน และช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยตลาดจีนมีการนำเข้าข้าวจากไทยเฉลี่ย 3-4 แสนตันต่อปี

     นอกจากนี้ จะต้องติดตามปริมาณผลผลิตของจีน สำหรับฟื้นฟูสต๊อกที่ระบายไปซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวทางตอนเหนือที่จะชดเชยพื้นที่เสียหายจากภัยธรรมชาติทางตอนกลางและตอนใต้ แต่พื้นที่บริเวณ ดังกล่าวก็เสี่ยงกับอากาศหนาวเย็น ซึ่งจะทำให้ปริมาณผลผลิตไม่สมบูรณ์

     "ผู้ส่งออกก็ต้องปรับตัวรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น โดยการสร้างแบรนด์สินค้า และหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น ตลาดแอฟริกา ตะวันออกกลาง เพราะอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกไปตลาดกลุ่มนี้ยังห้ามส่งออกข้าว โดยกำหนดเพดานราคาส่งออกข้าวจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ราคาข้าว บาสมาติปรับสูงขึ้นไปถึง 1,600-1,700 เหรียญสหรัฐต่อตัน สูงกว่าข้าวหอมมะลิที่ตันละ 800-900 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลางซึ่งสามารถนำข้าวหอมมะลิมาต้มและบริโภคแทนข้าว บาสมาติที่มีราคาสูงได้" นายสุเมธกล่าว

     ในส่วนของบริษัท วางเป้าหมายการ ส่งออกข้าวในปีนี้ 5-6 แสนตัน โดยมีทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวนึ่ง และปลายข้าว โดยเป็นสินค้าแบรนด์ "ตราฉัตร" 60-70% และที่เหลืออีก 30-40% เป็นแบรนด์ของลูกค้า และในจำนวนนี้เป็นการส่งออกไปตลาดจีนประมาณ 2 หมื่นตัน

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.