แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยว่า ผู้ค้าข้าวในวงการกำลังจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่จะมีการประชุมภายในสัปดาห์นี้ ว่า กขช.จะมีมติให้กระทรวงพาณิชย์ โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) ดูแลโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ฤดูกาล 2551 หรือให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดูแลเหมือนเดิม ในส่วนของการรับจำนำข้าวนาปรัง ที่ ครม.อนุมัติให้เพิ่มการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังอีก 1 ล้านตัน เป็น 4.5 ล้านตัน สาเหตุที่มีการจับตามอง เพราะขณะนี้เป็นปลายฤดูนาปรัง ข้าวเปลือกไม่ได้อยู่ในมือชาวนาแล้ว ยกเว้นภาคใต้ที่มีข้าวเปลือกออกมาประมาณ 5 หมื่นตันเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 9 แสนตัน ล้วนอยู่ในมือโรงสี และการรับจำนำในราคาตันละ 1.4 หมื่นบาท ขณะที่ราคาตลาดอยูที่ 1.2 หมื่นบาท จะทำให้โรงสีได้กำไรส่วนต่างตันละ 2 พันบาท หรือ 1.8-1.9 พันล้านบาท โดยมีกระแสข่าวว่าการเปิดรับจำนำข้าวนาปรังเพิ่มครั้งนี้มีเงินใต้โต๊ะตันละ 500 บาท

นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ว่าข้าวส่วนใหญ่อยู่ในมือโรงสีหมดแล้ว เพราะ ธ.ก.ส.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบข้อมูลการเพาะปลูกข้าวของเกษตรกรในพื้นที่อยู่แล้ว เหตุผลที่ทำให้ปริมาณข้าวเปลือกนาปรังปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านตัน จากตัวเลขเดิม 2.5 ล้านตัน เพราะราคารับจำนำที่รัฐบาลตั้งไว้สูง 1.4 หมื่นบาทต่อตัน ก็เลยทำให้เกษตรกรทุกพื้นที่ทั่วประเทศเร่งปลูกข้าวจำนวนมาก และในการประชุม กขช. ธ.ก.ส. จะเสนอขอถอนตัวจากการรับผิดชอบโครงการรับจำข้าวนาปี เนื่องจากเห็นว่าภารกิจของธนาคารในช่วงไตรมาส ที่ 3 และ 4 มีงานรัดตัวมากขึ้น ไม่สะดวกที่จะรับเป็นแม่งานการรับจำนำข้าวโดยตรง เหมือนโครงการรับจำนำข้าวนาปรังที่ผ่านมา

ที่มา มติชน