นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเสนอที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาให้ระบายข้าวนาปีออกจำหน่ายทันที โดยไม่ต้องส่งเข้าโกดังกลาง เพื่อลดต้นทุนการเก็บรักษาข้าวที่เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 700 บาท แบ่งเป็น ค่าโกดัง เซอร์เวเยอร์ รมยา และอื่นๆ ซึ่งต้นทุนจะเพิ่มขึ้นตามเวลาการเก็บรักษา ซึ่งการระบายข้าวทันที จะทำให้ต้นทุนข้าวต่อต้นลดลงและเมื่อระบายข้าว จะมีกำไรเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องข้อกังวลเกี่ยวกับใบประทวนที่มีอายุนาน 4 เดือน อาจแก้ปัญหาด้วยการเสนอแนวทาง ให้เพิ่มส่วนต่างแก่ชาวนาแทน หากชาวนายอมให้รัฐนำข้าวออกไปจำหน่ายก่อน จนได้ราคาสูงกว่าที่ให้รับจำนำ
ส่วนการระบายข้าวสต็อกรัฐบาลที่เหลือ 1.5-1.6 ล้านตัน คณะกรรมการระบายข้าว กำหนดระบายข้าวขาว 25% ที่เหลือ 364,000 ตันในสัปดาห์หน้าทันที แต่การกำหนดราคาขั้นต่ำ ต้องเกินตันละ 8,000 บาท เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้รัฐบาลขาดทุนมาก
ส่วนข้าวนาปรังที่รัฐรับจำนำตันละ 14,000 บาท อีก 1 ล้านตัน จะชะลอไปก่อน จนกว่าราคาข้าวจะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปได้อาจเป็นปีหน้า เพราะหากระบายตอนนี้ อาจทำให้ราคาตลาดข้าวตกต่ำและรัฐต้องขาดทุนมาก
นายไชยา กล่าวอีกว่า กรณี ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีนโยบายบริหารข้าวแบบคนขี้เมา และหวังผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นหลักว่า เป็นเรื่องเลอะเทอะ หากคิดว่าตนเองมีความสามารถ อยากให้ ดร.อัมมาร ลองเข้ามาบริหารงานเอง
ดร.อัมมาร ได้ออกมาวิจารณ์นโยบายข้าวของรัฐบาลแทบทุกรัฐบาล ที่ช่วยเหลือชาวนาด้วยการรับซื้อข้าวไปเก็บไว้ในคลังนั้น เป็นนโยบายที่ทำให้คุณภาพข้าวของไทยลดลงในระยะยาว โดยเกษตรกรไม่มีแรงจูงใจผลิตทำให้ข้าวไทยแข่งไม่ได้
"นโยบายข้าวของไทยที่ผ่านมาแทบทุกรัฐบาล เป็นนโยบายที่สะเปะสะปะ ไม่มีทิศทาง ส่วนหนึ่งเป็นไปตามสถานการณ์การเมือง ที่รัฐบาลมองว่าหากทำให้ราคาข้าวเพิ่มสูงขึ้น ก็จะเป็นผลงานของรัฐบาลอย่างหนึ่ง" ดร.อัมมารระบุ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|