www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

อิหร่าน-อินโดฯทิ้งข้าวไทย


นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้รวบรวมยอดคำสั่งซื้อข้าวไทยจากประเทศต่างๆ พบว่าในรอบปีนี้ อิหร่านและอินโดนีเซีย ลดการสั่งข้าวไทยลงกว่า 100% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยอิหร่านนำเข้าข้าวจากไทยเพียง 7 หมื่นกว่าตัน และคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะนำเข้าอีกไม่เกิน 2 แสนตัน จากปีที่ผ่านมา นำเข้าข้าวจากไทยสูงถึง 6-7 แสนตัน

อินโดนีเซียนำเข้าข้าวจากไทยปีนี้แค่ 6.5 หมื่นตัน และเป็นข้าวเหนียวไม่ใช่ข้าวขาว จากปีที่ผ่านมา นำเข้าข้าวขาวจากไทยประมาณ 4.56 แสนตัน หรือรวมแล้วทั้งสองประเทศลดการนำเข้าข้าวจากไทยปีนี้ ลงจากปีก่อนประมาณเกือบ 1 ล้านตัน

นายชูเกียรติ กล่าวว่า สาเหตุที่สองประเทศลดนำเข้าข้าวจากไทย เนื่องจากช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาข้าวทั่วโลก ได้ปรับราคาสูงขึ้นทะลุ 1,000 ดอลลาร์/ตัน จึงต้องชะลอนำเข้าข้าวออกไป โดยอิหร่านหันไปนำเข้าข้าวข้ามพรมแดนจากปากีสถาน และนำเข้าข้าวจากอุรุกวัยแทน

ส่วนอินโดนีเซีย เพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกข้าว ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก จึงลดการนำเข้าข้าวจากหลายประเทศ และมีแนวโน้มว่าปีหน้าอินโดนีเซียอาจจะมีปริมาณข้าวเหลือพอจนสามารถส่งออกข้าวให้กับตลาดโลกได้

นายชูเกียรติ กล่าวว่า การชะลอนำเข้าข้าวดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณการส่งออกข้าวไทยในปีหน้าอาจส่งได้ไม่เกิน 8.5 ล้านตัน โดยประเมินว่าภาวการณ์ค้าข้าวโลกลดลงเหลือ 27 ล้านตัน จากปีนี้ 30 ล้านตัน หรือหายไป 3 ล้านตัน

ทั้งนี้ ในการแก้ปัญหาสมาคมต้องการให้รัฐบาลเร่งเจรจาเพื่อรักษาตลาดไว้ โดยตลาดอิหร่านรัฐบาลควรเจรจาบาร์เตอร์เทรด ข้าวแลกกับน้ำมัน ซึ่งทางหนึ่งช่วยระบายสต็อกข้าวรัฐบาลออกไปด้วย ขณะนี้ ภาคเอกชนกังวลมากที่สุด คือ การที่รัฐบาลแบกสต็อกข้าวไว้ และจะรวมกับข้าวฤดูกาลใหม่ ที่จะได้จากการกำหนดราคาจำนำสูง ทำให้ต้นทุนเอกชนแข่งขันไม่ได้

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ คาดว่า การส่งออกข้าวไทยปีนี้ จะเป็นไปตามเป้า 9.5 ล้านตัน แม้ขณะนี้ อิหร่านจะนำเข้าข้าวจากไทยตั้งแต่เดือนม.ค.-ส.ค.ปริมาณ 7.7 หมื่นตัน ส่วนปีหน้าคาดว่าไทยจะส่งออกข้าวไม่ต่ำกว่าปีนี้ในปริมาณ 9-9.5 ล้านตัน เพราะความต้องการบริโภคข้าวโลกยังเพิ่มสูงขึ้น แม้ปีหน้า ผลผลิตข้าวโลกจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว กล่าวว่า ในวงการค้าข้าวขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าสต็อกข้าวโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 อาจมีการปลอมปนโดยการนำข้าวเหนียวที่ราคาถูกกว่ามาปนกับข้าวขาว เพื่อนำเข้าโครงการรับจำนำที่ให้ราคา 1.4 หมื่นบาทต่อตัน ซึ่งจะได้รับส่วนต่างที่เพิ่มจากโครงการ โดยมีการดำเนินการเป็นกระบวนการตั้งแต่ หน่วยงานของรัฐ โรงสี และผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซเวอร์เยอร์) ร่วมด้วย

คาดกันว่า ข้าวนาปรัง 3 ล้านตันมีการปลอมปนไม่น้อยกว่า 1 แสนตัน โดยจะได้กำไรประมาณ 7พันบาท จากการซื้อข้าวเหนียวในตลาดประมาณ 7 พันบาท ข้าวขาวประมาณ 1.1 หมื่นบาท นำมาผสมกันเข้าโครงการตันละ 1.4 หมื่นบาท รวมแล้วปริมาณเงินส่วนต่างน่าจะตกประมาณ 700 ล้านบาท
แหล่งข่าว กล่าวว่า การปลอมปนครั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

ผู้รับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังยังไม่ได้ลงไปตรวจสอบ ปล่อยให้หน่วยงานที่ได้มอบหมายให้ดำเนินโครงการไป หลังจากเกิดสุญญากาศของการดูแลข้าว หลังนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีพ้นตำแหน่ง

ที่มา กรุงเทพธูรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.