แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยว่า วงการค้าข้าวต้องการให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบสต๊อกข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าข้าวส่วนใหญ่ที่รับจำนำมานั้น มีการนำข้าวเหนียวมาปลอมปนรวมกับข้าวขาว และนำมาเข้าโครงการรับจำนำนาปรัง ที่รัฐบาลประกาศแทรกแซงไว้ในราคา 1.4 หมื่นบาท/ตัน โดยทำกันเป็นขบวนการ มีคนของหน่วยงานรัฐ โรงสี และผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) ร่วมด้วย
“ข้าวนาปรังส่วนใหญ่ที่รับจำนำเข้ามา 3 ล้านกว่าตัน คาดว่าถูกปลอมปนนับแสนตัน ผู้ปลอมปนจะได้กำไรจากการนำข้าวเหนียวและข้าวขาวผสมกันถึงตันละ 7,000 บาท เพราะข้าวเหนียวที่ซื้อใน ตลาดราคาตันละ 7,000 กว่าบาท ข้าวขาว 1-1.1 หมื่นบาท” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า การปลอมปนครั้งนี้ สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า เพราะข้าวเหนียวกับข้าวขาวมีลักษณะต่างกัน แต่ผู้ร่วมขบวนการกลับใช้วิธีระบุว่าข้าวขาวที่นำมาจำนำ เป็นข้าวท้องไข่ ซึ่งโรงสีก็รับจำนำเข้ามาและเซอร์เวเยอร์ก็จะผ่านการตรวจสอบให้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานรัฐบาล หรือแม้แต่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ผู้รับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังลงไปตรวจสอบ ปล่อยให้หน่วยงานที่ได้มอบหมายให้ดำเนินโครงการรับจำนำทำตามลำพัง เพราะเกิดช่วงสุญญากาศของการดูแลข้าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งให้หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ ลงไปตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ก่อนที่จะขอคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เข้าไปดูแลโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังแทน ธ.ก.ส
ที่มา โพสต์ทูเดย์ |