พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับมอบโล่เชิดชูเกียรติในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติกรณีที่ไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงเป็นประวัติการณ์จากสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ ว่า ต้องการฝากให้ผู้ส่งออกข้าวและผู้เกี่ยวข้องร่วมมือกับดูแลระบบการผลิตและส่งออกข้าวให้อยู่บนธรรมาภิบาลและควรมีการปรับปรุงอยู่เสมอ โดยการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ในช่วง 1 ปี เศษ เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นที่ต้องมีการศึกษารายละเอียดเพิ่มในการนำเทคโนโลยีมาใช้ตั้งแต่ในไร่นาจนถึงขั้นตอนการส่งออก ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถรักษาความเป็นผู้นำของการผลิตและส่งออกข้าวโลกต่อไปได้
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในปี 2550 รัฐบาลได้วางนโยบายในการดูแลข้าวเป็นระบบ โดยกระทรวงพาณิชย์ไม่มุ่งขายข้าวแข่งกับเอกชนและไม่เปิดรับจำนำมากเกินไปจนทำลายกลไกตลาด รวมทั้งมีการบริหารสต็อกข้าวที่รัฐบาลชุดที่แล้วรับจำนำเกินขอบเขตและมีการระบายข้าวออกจากสต็อกอย่างต่อเนื่อง และมีการร่วมมือกับประเทศผู้ส่งออกข้าวเพื่อร่วมกันรักษาระดับราคาข้าว ซึ่งทำให้ในปีที่แล้วส่งออกข้าวได้ 9.55 ล้านตัน มูลค่า 3,598 ล้านดอลลาร์ หรือ 123,861 ล้านบาท
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า แนวทางที่รัฐบาลชุดปัจจุบันดำเนินการในปีที่ผ่านมาเป็นวิธีการบริหารข้าวที่ถูกต้อง โดยมีการระบายข้าวออกมาอย่างต่อเนื่องและมีความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนในการหาตลาดข้าวเพิ่ม และถ้ารัฐบาลชุดต่อไปดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวจะทำให้ระบบการค้าข้าวของไทยมีความยั่งยืนและสามารถรักษาตำแหน่งประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกได้ต่อไป ซึ่งจะเป็นการสร้างผลดีต่อผู้ส่งออกและเกษตรกรให้มีรายได้มากขึ้น
นายชูเกียรติ กล่าวว่า สมาคมได้ตั้งเป้าส่งออกข้าวในปี 2551 ที่ 8.75 ล้านตัน แต่ถ้าสามารถส่งออกได้ 8.5 ล้านตัน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วเพราะปริมาณข้าวในสต็อกรัฐบาลลดลงมากเพราะปีที่แล้วรัฐบาลระบายข้าวออกมาถึง 9.5 ล้านตัน แต่ในด้านราคาข้าวมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และต้องมีการติดตามสถานการณ์ของเวียดนามที่ตั้งเป้าส่งออกข้าวได้ 4.5 ล้านตัน ซึ่งถ้าราคาข้าวในตลาดโลกดีอาจทำให้เวียดนามส่งออกได้ถึง 5 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่เวียดนามจะส่งออกข้าวขาวทำให้ไทยต้องเร่งพัฒนาการผลิตข้าวหอมมะลิและข้าวนึ่ง เพราะขณะนี้เวียดนามเริ่มพัฒนาคุณภาพข้าวขาวแล้วและถ้าเวียดนามพัฒนาข้าวนึ่งได้จะทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องเหนื่อยมากขึ้น
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
|