นายตะวัน ห่างสูงเนิน นักวิชาการอิสระด้านเกษตรอินทรีย์จากศูนย์ศึกษาและพัฒนา เกษตรอินทรีย์เรนโบว์ฟาร์ม กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาข้าวที่ขยับตัวสูงขึ้นมากในตลาดโลกขณะนี้ ส่งผลให้ผู้ผลิตข้าวในไทยมุ่งส่งออกข้าวไปจำหน่ายยังต่างประเทศกันมากเพราะได้ราคาที่สูงกว่าจำหน่ายในประเทศกว่าเท่าตัว

     "ขณะนี้เกิดปรากฏการณ์ "ตกเขียวข้าว" คือพ่อค้าเจ้าของโรงสีแห่กว้านซื้อข้าวของชาวนาตั้งแต่อยู่ในยุ้งฉางไปกักตุนไว้ ทั้งข้าวเจ้าขาว และข้าวอินทรีย์ สิ่งที่น่าห่วงคือ ในอนาคตอันใกล้ไม่เกินเดือนเม.ย.นี้ ข้าวไทยจะเข้าสู่ภาวะขาดตลาด เพราะส่งออกมากปริมาณข้าวในประเทศมีน้อยทำให้มีราคาที่แพงมาก" นายตะวัน กล่าว

     ทั้งนี้หากพิจารณายอดการส่งออกข้าวหอมมะลิของประเทศไทยที่ผ่านมา มียอดการส่งออกตกเดือนละ 6 แสนตัน แต่ปัจจุบันมียอดส่งออกสูงถึงเดือน 1 ล้านตันเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ถ้าปีนี้ประเทศไทยเกิดภาวะภัยแล้งหรือมีภัยธรรมชาติเข้ามาผสมโรง อาจจะนำไปสู่ภาวะการขาดแคลน ข้าวที่เป็นวิกฤติหนักยิ่งในประเทศ

     ดังนั้นการผู้ผลิตและผู้ขายมุ่งส่งออกข้าวไปจำหน่ายในต่างประเทศโดยที่ไม่มีการควบคุมปริมาณอาจส่งผลเสียหลายอย่างที่เด่นชัดคือคนไทยต้องควักกระเป๋าซื้อข้าวกินในราคาที่สูงขึ้น ราคาขายปลีกข้าวหอมมะลิ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตกอยู่ที่กก.ละ 19 บาทขณะนี้ขยับขึ้นมาเป็นกก.ละ 25 บาท ในเดือนเม.ย.น่าจะขยับขึ้นไปอีกเป็นกก.ละ 26 บาท

     "ปรากฏการณ์ที่จะตามมาคือชาวนา จะพากันหันไปปลูกข้าวเจ้าขายเพราะมองว่าราคาดีและจะนำไปสู่ปัญหาข้าวเจ้าล้นตลาดในปีหน้าซ้ำรอยกับที่แห่ไปปลูกข้าวเหนียวในปีก่อน จนนำมาสู่ภาวะข้าวเหนียวล้นตลาดราคาตกต่ำในปีนี้" นายตะวัน กล่าว

     นอกจากราคาข้าวในประเทศจะสูงขึ้นจนเป็นปัญหาต่อคนจนแล้ว ปัญหาที่จะตามมาอีกอย่างคือ เกษตรกรที่เคยปลูกข้าวในระบบอินทรีย์ ซึ่งมีสัดส่วนที่น้อยอยู่แล้ว อาจละทิ้งนาอินทรีย์หันไปปลูกข้าวขาว ซึ่งใช้สารเคมี เนื่องจากในตลาดส่งออกขณะนี้ราคาของข้าวเจ้าขาวที่ปลูกโดยใช้สารเคมีขยับราคาขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้กัน เนื่องจากการผลิตข้าวอินทรีย์มีกระบวนการและกรรมวิธีการปลูกที่ซับซ้อนกว่า

     นายตะวัน กล่าวอีกว่า สถานการณ์ราคาข้าวที่ขยับตัวสูงขึ้นมากในตลาดโลกขณะนี้อาจจะส่งผลดีต่อคนไทยที่ต้องการบริโภคข้าวอินทรีย์ที่มีขายในประเทศ ซึ่งขณะนี้พบว่ามีราคาขายใกล้กับข้าวขาวที่ไม่ปลอดสารแล้ว แต่ปริมาณข้าวอินทรีย์ที่ผู้ผลิตเก็บไว้ขายในประเทศไทยนั้นมีน้อย ขณะนี้เริ่มมีนายทุนใหญ่จากภาคอีสานกว้านซื้อข้าวอินทรีย์กักตุนไว้ในโกดัง ทราบว่ารายเดียวกักตุนแล้วถึง 5 พันตัน ในอนาคตอันใกล้ไม่กี่เดือนนี้ข้าวอินทรีย์ในประเทศไทยซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีน้อยอยู่แล้ว ก็จะปรับตัวสูงขึ้นจากการกักตุนของนายทุนรายใหญ่ที่ผูกขาดซื้อไว้

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ