นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนจะเสนอคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ให้พิจารณายกระดับข้าวหอมที่ปลูกในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นข้าวหอมมะลิ 105 (นครสวรรค์) ตามที่เกษตรกรจังหวัดนครสวรรค์ร้องขอ โดยกำหนดราคาจำนำเพิ่มเป็นตันละ 1.4 หมื่นบาท จากตันละ 1.3 หมื่นบาท แต่ต่ำกว่าราคารับจำนำข้าวหอมมะลิพื้นที่ภาคอีสาน 1,000 บาท ที่รับจำนำตันละ 1.5 หมื่นบาท

“ทางกลุ่มเกษตรกรจังหวัดนครสวรรค์ได้มาร้องขอ เพราะเห็นว่าข้าวหอมที่ปลูกในพื้นที่นครสวรรค์ไม่ได้แตกต่าง จากข้าวหอมมะลิที่ปลูกในพื้นที่อีสานในลักษณะทางพันธุกรรม มีการใช้พันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งเป็นชนิดที่ปลูกในภาคอีสานปลูกเหมือนกัน และไม่น่าจะสร้างความสับสนในการส่งออกข้าวหอมมะลิของไทยไปตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมาการส่งออกข้าวมะลิของจังหวัดนครสวรรค์ ระบุชื่อเป็น THAI HOM MALI RICE อยู่แล้ว" นายไชยา กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา องค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยนางวไลพร วัฏฏานนท์ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ อคส. ได้ลงนามประกาศองค์การคลังสินค้า การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล โดยเปิดประมูลขายข้าวสารเพื่อส่งออกต่างประเทศ และข้าวหอมมะลิ ข้าวปทุมธานี จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2547/2548, 2548/2549, 2549/2550 และนาปรัง 2548, 2550 และ 2551 เพื่อจำหน่ายในประเทศหรือส่งออกต่างประเทศ

ทั้งนี้ให้ยื่นซองเอกสารหลักฐานและซองเสนอราคาที่ชั้น 6 อคส. วันที่ 28 พ.ย.2551 เวลา 09.00-12.00 น. เปิดซองเอกสาร ก่อนเปิดซองเสนอราคา เวลา 14.00 น. จากนั้นจะต่อรองราคากับผู้เสนอราคาสูงสุด 3 อันดับแรกของแต่ละชนิดข้าว ในแต่ละคลังสินค้า ก่อนเสนอ รมว.พาณิชย์อนุมัติขายให้แก่ผู้ที่ให้ราคาซื้อสูงสุด

แหล่งข่าว กล่าวว่า การเปิดประมูลข้าวครั้งนี้ เป็นการดำเนินการที่ผิดปกติอีกครั้ง โดยหนังสือประกาศการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ลงวันที่ 21 พ.ย. แต่มีการเผยแพร่ทั่วไปในวันที่ 25 พ.ย. และเป็นการเปิดประมูลขายข้าวที่เหลือ จากการประมูลครั้งแรกประมาณ 1.6 ล้านตัน ต่างจากที่นายไชยา ระบุมาโดยตลอดว่าจะเร่งระบายเพียงข้าว 25% ที่มีอยู่ 3.64 แสนตันเท่านั้น

การเปิดประมูลข้าวในสต็อกรัฐบาลครั้งแรก กระทรวงพาณิชย์สามารถขายข้าวได้ 1.5 ล้านตัน ได้เงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แต่พบว่าเป็นการขายข้าวที่ทำให้รัฐเสียประโยชน์อย่างมาก เพราะเป็นการขายในราคาต้นทุนจำนำ โดยข้าวขาวต้นทุนตันละ 1.2 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิตันละ 1.8 หมื่นบาท ขายข้าวขาวได้ตันละ 1.2 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิตันละ 1.55 หมื่นบาท ขณะที่ราคาตลาดข้าวขาวตันละ 1.8 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิตันละ 2.5 หมื่นบาท ทำให้รัฐเสียโอกาสทำกำไรเป็นหมื่นล้านบาท

การเปิดประมูลครั้งนี้ ต้องจับตาว่ารัฐจะใช้ราคาอะไร เป็นเกณฑ์ในการขายข้าว เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติในการเปิดประมูลข้าว จะใช้ราคาตลาดเป็นตัวตั้ง และให้หักค่าเสื่อมสภาพได้ปีละ 10 ดอลลาร์ จากครั้งก่อนใช้ราคาต้นทุนเป็นตัวตั้ง

นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า การที่ อคส.เปิดประมูลข้าวที่เหลือทั้งหมดอีกครั้ง น่าจะเป็นเพราะมีการเรียกร้องเข้ามา แต่คาดว่าข้าวนาปรังที่มีต้นทุนสูงถึงตันละ 1.4-1.5 หมื่นบาท ไม่น่าจะขายได้ เพราะราคาตลาดขณะนี้ไม่คุ้มกับต้นทุนจำนำ ส่วน ซี.พี.จะเข้ามาร่วมประมูลหรือไม่ต้องสำรวจข้าวที่เปิดประมูลก่อน

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ