นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวเหนียวแต่ละปีเฉลี่ยที่ปริมาณ 2 แสนตัน ซึ่งเป็นปริมาณคงที่มาตลอด ทำให้แนวทางการเสริมการส่งออกข้าวเหนียวทำได้ลำบากมาก จึงเห็นว่าการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ จะสามารถดึงปริมาณข้าวเหนียวที่ผลิตเกินความต้องการตลาดออกไปได้
ทั้งนี้ การส่งออกข้าวเหนียวส่วนใหญ่ เพื่อการบริโภคในประเทศเอเชีย อาทิเช่น สิงคโปร์ จีน อินโดนีเซีย โดยปริมาณผลผลิตแต่ละปีเฉลี่ย 6 ล้านตัน บริโภคในประเทศ 5.5-5.6 ล้านตัน จึงเกิดปริมาณผลผลิตเกินความต้องการประมาณ 4-5 แสนตัน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมได้ร่วมกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า จังหวัดนนทบุรี และสมาคมภัตตาคารไทย จัดงาน "ส่งเสริมการบริโภคข้าวเหนียวแห่งชาติ" ตลอดเดือน มิ.ย.นี้ โดยนำเมนูอาหารที่เกี่ยวข้องกับข้าวเหนียวทั้งอาหารคาว-หวานกว่า 100 ชนิด รณรงค์ให้คนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยในเมืองไทยรู้จัก และบริโภคข้าวเหนียวเพิ่ม ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการบริโภค และแก้ปัญหาข้าวเหนียวราคาตกต่ำ
"ตอนนี้มีห้างที่เข้ามาร่วมหารือแล้ว อาทิเช่น สยามพารากอน เดอะมอลล์ เซ็นทรัล เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี และคาดว่าเปิดตัวเป็นทางการที่แรกที่ห้างสยามพารากอน ก่อนกระจายไปที่อื่นทั่วประเทศ ทั้งเดือน มิ.ย. ซึ่งแต่ละพื้นที่จะนำอาหารที่เกี่ยวข้องกับข้าวเหนียวทั่วไทยมาจัดเป็นซุ้มอาหารแบ่งเป็นโซนแต่ละภาค อาทิเช่น ภาคอีสานเป็นข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างภาคเหนือข้าวเหนียวไส้อั่ว ภาคกลางเป็นข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวหลาม พร้อมอาหารแปรรูปเกี่ยวข้าวเหนียวอีกหลากหลายนับร้อยรายการ" นางอภิรดีกล่าว
ส่วนการร่วมมือกับสมาคมภัตตาคารไทย จะให้สมาชิกร้านอาหารของสมาคมคิดรายการอาหารที่เกี่ยวข้องกับข้าวเหนียว บรรจุลงในเมนูอาหารเพิ่ม เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน เพราะที่ผ่านมา ร้านอาหารส่วนใหญ่มีข้าวเจ้าเป็นหลัก นอกจากนี้ อาจมีการนำดาราที่ชื่นชอบ หรือทำธุรกิจร้านอาหารอยู่มาร่วมประชาสัมพันธ์เพิ่มอีก
โรงสีรอแบ่งออเดอร์จีทูจี
นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวถึง ความคืบหน้าการจัดสรรส่งออกข้าวของภาครัฐให้กับโรงสี ว่า กำลังรอการเข้าหารือกับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อกำหนดวิธีการและเป้าหมาย ภายหลังสมาคมโรงสีเสนอตัวเป็นผู้ส่งข้าวจีทูจี ให้ภาครัฐประมาณครั้งละ 1 แสนตัน
นายชูเกียรติ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ราคาข้าวขณะนี้ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยกรณีที่เงินบาทอ่อนค่า จะทำให้ราคาเอฟโอบีปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออกที่จะทำให้ผู้ซื้อ สนใจซื้อข้าวมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ส่งออกมีคำสั่งซื้อข้าว (ข้าวขาว) อยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่มาจากมาเลเซีย ในส่วนข้าวขาว และไนจีเรีย ในส่วนข้าวนึ่ง และยังมีคำสั่งซื้ออื่นๆ ทำให้คาดว่า การส่งออกพ.ค.จะมีปริมาณ 9 แสน-1 ล้านตัน
ส่วนคำสั่งซื้อข้าวขาวจากรัฐบาลอิหร่านที่ปกติจะมีอยู่ทุกปี ขณะนี้ มีเพียงการสอบถามราคาและปริมาณจากผู้ส่งออกไทย แต่ยังไม่มีข้อสรุปคำสั่งซื้อที่ชัดเจนเนื่องจากอิหร่าน ยังอยู่ในช่วงการเฝ้าดูราคาอยู่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีปัญหาว่าธนาคารพาณิชย์ไทยไม่รับเปิดแอล/ซี กรณีการซื้อขายสินค้ากับอิหร่าน เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบ จากมาตรการคว่ำบาตรจากสหประชาชาติ ที่มีต่ออิหร่านขณะนี้
นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า กรณีที่รัฐจัดสรรคำสั่งซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับผู้ส่งออกบางรายและโรงสีนั้น จะไม่เป็นการปิดโอกาสผู้ส่งออกอื่นๆ ที่สนใจร่วมโครงการเพราะคำสั่งซื้อลักษณะนี้ จะมีปริมาณสั่งซื้อมากมั่นใจ ว่า ผู้ส่งออกรายอื่นๆ จะได้เข้าร่วมการส่งมอบดังกล่าวด้วย
ชาวนาแนะจำนำข้าวเหนียว
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า รัฐบาลควรตัดสินใจแก้ปัญหาข้าวเปลือกเหนียวราคาตกต่ำ ด้วยการเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเหนียว คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่มาก เนื่องจากขณะนี้ ข้าวเปลือกเหนียวในตลาดเหลืออยู่ประมาณ 3 หมื่นกว่าตันเท่านั้น ขณะที่ข้าวชนิดอื่นควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพราะไม่ได้มีปัญหาเรื่องราคา
"รัฐบาลควรเปิดโครงการรับจำนำเฉพาะข้าวที่มีปัญหา โดยข้าวเจ้าและข้าวหอมมะลิก็ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว เพราะหากไม่เปิดโครงการรับจำนำ ปัญหาข้าวเปลือกเหนียวก็ไม่จบ" นายประสิทธิ์กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง แนวคิดที่กำหนดให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำหน้าที่เหมือนผู้ส่งออก โดยรับซื้อข้าวจากชาวนาและทำการส่งออก แต่ยังมีปัญหาว่าอาจกระทบต่อระเบียบราชการ ดังนั้น นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จึงสั่งการให้ศึกษาวิธีการปฏิบัติโดยละเอียด ซึ่งในส่วนของอคส.เสนอทางออกโดยให้ขอเป็นมติครม.และให้กรมการค้าภายในออกแอล/ซีรับรองอคส. ก่อนมอบหมายให้อคส. เป็นผู้จัดซื้อข้าวและส่งออก โดยอคส.จะมีรายได้จากค่าบริหารจัดการและสัดส่วนกำไรจากมูลค่าการส่งออก หรือทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับกลุ่มโรงสี ที่จะขยายธุรกิจเป็นผู้ส่งออก
นอกจากนี้ กำลังศึกษาให้อคส.จัดทำข้าวเหนียวบรรจุถุงจำหน่าย เหมือนข้าวขาวธงฟ้า และให้จำหน่ายคู่กับข้าวถุงธงฟ้า เพื่อเป็นกระจายข้าวเหนียวในทุกจังหวัด ซึ่งข้าวถุงธงฟ้าล็อต 3 อีก 1 แสนถุง (ชนิดข้าว 5%) กำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ในราคา 120-130 บาท โดยกรุงเทพฯ วางขายที่กระทรวงพาณิชย์ และคลังอคส.ราษฎรบูรณะ แห่งละหมื่นถุง และเพิ่มจำนวนจังหวัดจาก 28 จังหวัดให้เกิน 40 จังหวัด เพื่อให้กระจายถึงประชาชนทั่วประเทศ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |