นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (26 ก.ย.) ได้มีการหารือประเด็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในเรื่องข้าว ซึ่งกระทรวงการคลังยืนยันว่า จะให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาล ซึ่งจะต้องเร่งหาทางระบายข้าวที่มีอยู่ในสต็อกทั้งข้าวเก่า ข้าวใหม่ ประมาณ 6 ล้านตัน โดยเร็วในทุกรูปแบบทั้งขายรัฐต่อรัฐและขายให้เอกชน เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับการรองรับการจำนำข้าวเวลาการผลิตปี 2551/2552 ที่จะเริ่มวันที่ 16 ต.ค.น

ี้“การระบายข้าว จะเปิดกว้าง และจะรีบทำโดยเร็ว เพราะข้าวใหม่กำลังจะออกมา ข้าวเก่าในโกดังก็มีมาก ถ้าไม่รีบระบายจะมีปัญหาไม่มีที่เก็บข้าว ใครอยากจะเท่าใด ก็ให้เสนอมา แต่ต้องเป็นราคาที่รัฐไม่ขาดทุน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีราคาขั้นต่ำในใจไว้อยู่แล้ว”นายไชยา กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และองค์การคลังสินค้า ไปดำเนินการตรวจสอบคุณภาพข้าว ที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวนาปรังอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไว้ก่อน หลังจากที่จะต้องรับผิดชอบข้าวในสต็อกที่ได้รับจากการรับจำนำ โดยเฉพาะสต็อกใหม่ ต้องตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจน หากพบทุจริตก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด

ส่วนการแก้ไขปัญหาโรงสีที่ถูกขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสต์) เพื่อรองรับจำนำข้าว นั้นมีเงื่อนไขว่าโรงสีที่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ไม่มีเจตนาทุจริต ก็จะผ่อนปรนให้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวได้ แต่โรงสีจะต้องจ่ายคืนเงินต้นที่ค้างชำระให้กับรัฐทั้งหมดก่อน

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า หลังรับคืนงานข้าวทั้งหมด ต้องเสนอให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาอีกรอบ เพื่อกำหนดแนวทางทั้งหมดให้ชัดเจน ทั้งการรับจำนำ การระบายข้าว รวมทั้งข้าวที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับจำนำไว้

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ