นายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.เตรียมเสนอคณะกรรมการระบายข้าว มีนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เปิดระบายข้าวหอมมะลิ และข้าวขาวในสต๊อครัฐบาลปี 2548/49 รวมจำนวน 500,000 ตัน ก่อนเทศกาลตรุษจีน หรือไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อลดภาระและบริหารจัดการสต๊อคข้าวของรัฐบาล ก่อนเปิดโครงการรับจำนำข้าวนาปรังปีฤดูกาลผลิต 2551 ที่จะออกสู่ตลาดในอีก 3-4 เดือน โดยจะทำให้เหลือข้าวสำรองในสต๊อคเกือบ 1.5 ล้านตัน ยังเพียงพอกับการบริโภคในประเทศ 2-3 เดือนก่อนฤดูกาลข้าวใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งเชื่อว่าปีนี้จะมีปริมาณรับจำนำใกล้เคียงปี 2550 ที่ปริมาณ 1.8 ล้านตัน จึงไม่น่าวิตกต่อปัญหาขาดแคลนข้าวและราคาข้าวแพงขึ้นเกินจำเป็น
ในส่วนของโครงการรับจำนำข้าวนาปี 2550/51 นายพิสุทธิ์กล่าวว่า จนถึงวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมามีข้าวเข้าโครงการเพียง 60,000 ตัน และเริ่มมีเกษตรกรไถ่ถอน และมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เกษตรกรจะไถ่ถอนหมดจนไม่มีข้าวเปลือกสีแปรตามกำหนดในวันที่ 28-29 มกราคมนี้ เนื่องจากราคารับซื้อในตลาดกลางยังสูงกว่าราคารับจำนำตันละ 1,000 บาท ฉะนั้นจะมีการปิดโครงการรับจำนำเมื่อครบกำหนดโครงการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนการรับจำนำข้าวในภาคใต้จะสิ้นสุดเดือนมีนาคมนี้ก็จะผ่อนผันการเปิดรับจำนำข้ามเขต หากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ยังมีอยู่
นายพิสุทธิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการชำระหนี้ค้างชำระค่าเช่าโกดังกับโรงสีและคลังสินค้าจำนวน 1,904 ล้านบาท ว่า ได้รับโอนงบประมาณจากสำนักงบประมาณแล้ว คาดว่าจะจ่ายให้ครบจำนวนในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเจ้าของโรงสีที่เคยยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับ อคส.ได้ถอนแจ้งความและระงับค่าชดเชยการผิดสัญญาจ่ายค่าเช่าแล้ว ส่วนการจ่ายข้าวที่เปิดประมูลก่อนหน้านี้รวม 2.9 ล้านกระสอบ จะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม
แหล่งข่าวในกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีขบวนการปล่อยข่าวต่อเกษตรกรในพื้นที่เพาะปลูกภาคอีสานและภาคเหนือให้เก็บข้าวไว้ก่อน เพราะเมื่อมีรัฐบาลใหม่ราคารับจำนำข้าวจะสูงขึ้นและอาจสูงกว่าราคารับซื้อของเอกชน ซึ่งเชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าวปั่นฐานราคารับจำนำให้สูง จากราคาปัจจุบันตันละ 9,300-10,000 บาท เป็น 11,000-12,000 บาท ในการเปิดรับจำนำนาปรังปี 2551 ทำให้อคส.ต้องการลดความเสี่ยงโดยขอให้เปิดระบายข้าวในสต๊อค เพราะเชื่อว่านโยบายการเมืองจะมีการกำหนดราคารับจำนำข้าวที่สูงขึ้น รวมถึงขยายเวลารับจำนำข้าวนาปี 2550/51 ออกไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด ซึ่งจะทำให้รัฐต้องกลับมาแบกรับภาระข้าวค้างสต๊อคในจำนวนที่มากเกินไปอีกครั้ง
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า สาเหตุที่กระทรวงพาณิชย์เปิดระบายข้าวสารในสต็อกรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อดูแลราคาข้าวภายในประเทศไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นเร็วเกินไป เพราะตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ราคาข้าวภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้นมาก ตามราคาข้าวตลาดโลก ซึ่งขณะนี้ผู้ส่งออกไทยไม่กล้ารับคำสั่งซื้อใหม่ เนื่องจากเกรงว่าจะขาดทุน เพราะราคาข้าวเคลื่อนไหวเร็วมาก โดยราคาส่งออกข้าวหอมมะลิขณะนี้อยู่ที่ตันละ 720 ดอลลาร์ ข้าวขาว 100% อยู่ที่ 405 ดอลลาร์ และข้าวนึ่ง 415-420 ดอลลาร์ อีกทั้งผู้ส่งออกยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าด้วย
“ทางผู้ส่งออกได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งก็สอบถามถึงสถานการณ์ข้าวปัจจุบัน พบว่าราคาข้าวภายในประเทศเคลื่อนไหวแรงมาก เพราะขณะนี้ทางโรงสี และพ่อค้าคนกลาง ต่างเก็บสต็อกข้าวไว้หมด เพื่อเก็งกำไรราคาข้าวที่อาจปรับตัวสูงขึ้นมาอีก จากแนวโน้มราคาข้าวในตลาดโลก การประมูลครั้งนี้ คาดว่าทางกระทรวงคงต้องการลดความร้อนแรงของราคาข้าวลงมาบ้าง” นายชูเกียรติ กล่าว ที่มา มติชน
|