นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลัง หารือร่วมกับนายกามาล นาธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของอินเดีย ในวันนี้ (27 เม.ย.) โดยระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือร่วมกัน ถึงปัญหาเรื่องวิกฤติการขาดแคลนอาหารทั่วโลก โดยเฉพาะข้าว ที่ปัจจุบันหลายประเทศระงับการส่งออก แต่ความต้องการซื้อและบริโภคยังมีอยู่สูง จึงเป็นแนวทางที่ประเทศที่ผลิตและส่งออก เช่น ไทยและเวียดนาม จะร่วมมือเร่งพัฒนาเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของทุกประเทศทั่วโลก
ส่วนการส่งออกข้าวของอินเดียนั้น ขณะนี้อินเดียได้ระงับการส่งออกไป เนื่องจากความต้องการบริโภคในประเทศของอินเดียที่มีอยู่สูง แม้อินเดียจะปลูกข้าวและเคยส่งออกเป็นอันดับ 2 ของโลกก็ทำให้อินเดียต้องระงับการส่งออกในที่สุด ส่วนประเทศไทยยังยืนยันที่จะส่งออกข้าวต่อไป เนื่องจากมีปริมาณการผลิตข้าวที่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ และเหลือเพียงพอในการส่งออก ซึ่งถือเป็นเรื่องของคุณธรรมด้วย ที่ไทยเมื่อผลิตข้าวได้มากและเหลือเพียงที่จะส่งออก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ทั่วโลกมีปัญหาขาดแคลนอาหาร ฉะนั้นหากไทยระงับการส่งออก ก็จะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้รุนแรงมากขึ้นไปอีก
นายมิ่งขวัญกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีที่ประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ ประกอบด้วยไทย ที่มีการส่งออกเฉลี่ยปีละ 9 ล้านตัน อินเดียที่เคยส่งออกถึง 5 ล้านตัน และเวียดนาม 4.5 ล้านตัน จะมีการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดปริมาณส่งออกและราคาข้าวในตลาดโลกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน แต่ในอนาคตจะมีการหารือหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามต่อไป
นอกจากนี้ไทยและอินเดีย ยังได้หารือถึงกรอบความร่วมมือ ทางทางค้าตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี ( FTA) ไทยและอินเดียที่มีการลงนามไปแล้วเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอินเดียอยู่สภาพขาดดุลการค้ากับไทยอยู่ โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นควรที่จะเร่งเจรจาเพื่อเพิ่มหมวดสินค้าภายใต้ข้อตกลงให้มากขึ้นในอีกหลายรายการ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 82 รายการ ซึ่งเรื่องนี้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จะรับไปดำเนินการสานต่อ
ที่มา สำนักข่าวไทย |