www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ครม.อนุมัติ"ข้าวถุงธงฟ้า" ขายต่ำกว่าตลาด30บาท


      นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (29 เม.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ นำข้าวในสต็อก จำนวน 2.1 ล้านตัน บรรจุถุงขายประชาชน แต่จะมีคณะกรรมการหาสต็อกข้าวให้อยู่ในระดับเดียวกันตลอดเวลา โดยข้าวขาว 5% จะมีราคา 170 บาท ส่วนข้าวหอมมะลิอาจสูงกว่าเล็กน้อย

     นายสมัคร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ยกเลิกการนำข้าวสารในสต็อกมาทำเป็นข้าวสารบรรจุถุง เพราะเกรงจะถูกกล่าวหาว่าทำเพื่อเอาหน้า แต่วันนี้ มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการเรื่องนี้ โดยจะนำข้าวสารในสต็อกรัฐบาลมาบรรจุถุงจำหน่ายให้ประชาชน อาทิเช่น ข้าวสาร 5% บรรจุถุง 5 กิโลกรัม ราคาจะลดลงจาก 200 บาทต่อถุง เหลือ 170 บาทต่อถุง โดยจะเริ่มจำหน่ายภายใน 2 สัปดาห์

ข้าวถุงธงฟ้าทั้งปี 51 ขายถูกกว่าตลาด 20%

     นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวหลังประชุมครม.ว่าที่ประชุมมีมติให้นำข้าวสารในสต็อกของรัฐจำนวน 2.1 ล้านตัน โดยให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทยอยทำเป็นข้าวถุงเพื่อจำหน่ายให้ประชาชน ส่วนราคาจำหน่ายจะเป็นราคาเฉลี่ยข้าวเก่าและข้าวใหม่ และจะเป็นราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 20% " โครงการข้าวถุงธงฟ้ามหาชน" นี้ จะเริ่มดำเนินการถึงสิ้นปี 2551 และขยายเวลาออกได้ หากมีความจำเป็น

     ส่วนการบริหารจัดการข้าวบรรจุถุง จะนำข้าวสารในสต็อกมาบรรจุจำหน่ายให้ประชาชน โดยข้าวสารที่จะจำหน่ายมีหลายประเภท อาทิเช่น ข้าวหอมมะลิ 100% ข้าวหอมจังหวัด ข้าวหอมปทุมธานี ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% และข้าวขาว 25% และจะจัดซื้อข้าวใหม่เข้ามาทดแทนข้าวที่นำออกมาจำหน่ายให้ครบ 2.1 ล้านตัน เพื่อความมั่นคงของอาหารในประเทศ

     "ราคาข้าวบรรจุถุงที่จำหน่ายนั้น จะเป็นราคาเฉลี่ยของข้าวเก่าและข้าวใหม่ในสต็อก เพื่อให้ราคาตลาดคงที่ แต่ราคาจะเป็นเท่าใด จะมีคณะกรรมการส่วนกลางเป็นผู้กำหนด รวมถึงจะมีการติดตามราคาขายปลีกอย่างใกล้ชิด" นายมิ่งขวัญกล่าว

"มิ่งขวัญ" ดึงส.ส.-ท้องถิ่นกระจายข้าวถุง

     นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า จะดึง ส.ส.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมทำการจำหน่ายข้าวถุงธงฟ้ามหาชน โดยล็อตแรกจะทำภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะนำข้าวขาว 5% ออกมาจำหน่าย เพราะในสต็อกมีอยู่กว่า 1 ล้านตัน และเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ 75-80% บริโภคข้าวขาว

     นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จำนำข้าวในสต็อก 2.1 ล้านตัน ทยอยทำเป็นข้าวถุงจำหน่ายให้ประชาชนเป็นล็อตๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวแพง การจำหน่ายจะเริ่มได้ภายใน 2 สัปดาห์

     ที่ประชุมครม.ยังเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ทำหน้าที่กำหนดปริมาณข้าวสารแต่ละล็อตที่จะนำออกมาบรรจุถุงจำหน่ายให้ประชาชน กำหนดประเภทข้าวสารและปริมาณที่จะนำออกจำหน่าย รวมถึงราคาที่จะจำหน่ายจะเป็นเท่าใด พร้อมทั้งจัดซื้อข้าวใหม่มาทดแทนข้าวในสต็อก โดยจะรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาโดยตรง หรือซื้อจากโรงสีก็ได้

     ส่วนคณะอนุกรรมการมีหน้าที่กำหนดวิธีการและหลักเกณฑ์ ในการกระจายข้าวบรรจุถุงให้ประชาชน การกระจายข้าว จะพิจารณาจากความต้องการของแต่ละครอบครัว และความต้องการของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งกำหนดมาตรการ และแนวทางป้องกันการเวียนเทียนซื้อข้าว

ดึงอคส.ตัวกลางผลิตข้าวถุงธงฟ้า

     นายยรรยง กล่าวว่า คาดว่าประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะสามารถนำข้าวถุงวางจำหน่ายท้องตลาดได้ ขณะนี้ อยู่ระหว่างให้แต่ละจังหวัดสำรวจปริมาณความต้องการ เพื่อนำมาสรุปก่อนจัดทำเป็นข้าวถุง จากนั้นก็จะให้อคส.ผลิตข้าวถุงร่วมโครงการได้ทันที เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอเมื่อถึงเวลาวางตลาด อคส. มีกำลังการผลิตวันละ 1 หมื่นตัน หากข้าวที่ออกวางจำหน่ายเบื้องต้น จะอยู่ที่ประมาณ 1-3 แสนถุง เชื่อว่าจะมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ แต่หากกำลังการผลิตของอคส.ไม่เพียงพอ คงต้องว่าจ้างเอกชนเข้ามาผลิตแทน

     ขณะนี้ ยังไม่ได้ตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการข้าว แต่คาดว่าจะมีการแต่งตั้งและประชุมได้ภายในสัปดาห์นี้ การจำหน่ายข้าวถุงธงฟ้ามหาชน จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้จำหน่ายข้าวถุงที่มีอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากข้าวถุงที่จำหน่ายในตลาดส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิ มีวางจำหน่ายเฉพาะในกทม.และหัวเมืองใหญ่ๆ คิดเป็นสัดส่วน 30% ของปริมาณการบริโภคข้าวทั้งหมด การผลิตข้าวถุงออกจำหน่ายครั้งนี้ จะทำให้ราคาในตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะจะมีการซื้อข้าวใหม่คืนเข้าโกดังอย่างต่อเนื่อง

     แหล่งข่าวจากที่ประชุมครม. กล่าวว่า ปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐบาล 2.1 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวสาร 1.955 ล้านตัน เป็นข้าวเปลือก 184,845 ตัน ซึ่งคำนวณเป็นข้าวสารประมาณ 107,400 ตัน เป็นข้าวในโครงการรับจำนำปี 2547/2548-2550/2551 ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมจังหวัด ข้าวปทุมธานี ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25%

     พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวนาปรัง ปี 2551 และข้าวนาปี ปี 2551/2552 จะมีผลผลิตรวม 30.18 ล้านตันข้าวเปลือก หรือประมาณ 20 ล้านตันข้าวสาร โดยจะใช้เพื่อการบริโภคภายในประเทศประมาณ 9 ล้านตันข้าวสาร จำแนกเป็นการบริโภค 6.6 ล้านตัน ใช้ทำพันธุ์และใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ประมาณ 2.4 ล้านตันข้าวสาร คาดว่าจะส่งออกทั้งปี 2551 ประมาณ 9 ล้านตัน และที่เหลือเก็บไว้เป็นสต็อก

สมาคมโรงสีเตือนรัฐอย่าตั้งราคาต่ำเกินไป

    นายวัฒนา รัตนวงศ์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวถึง กรณีที่รัฐจะทำข้าวถุงราคาถูกจำหน่าย รัฐไม่ควรกำหนดราคาให้ถูกกว่าท้องตลาดเกินกว่า 20% เพราะจะเกิดปัญหาการเวียนเทียนซื้อข้าว และนำไปขายในราคาแพง เพื่อหวังผลกำไรจากส่วนต่างที่เกิดขึ้น หากกำหนดราคาต่ำกว่าตลาด 10-20% ถือว่าเหมาะสม เพราะส่วนต่างจะไม่สูงมาก จนจูงใจให้เกิดการเวียนเทียน

     ส่วนกรณีที่รัฐมีแผนจะซื้อข้าวจากชาวนา เพื่อกลับไปเติมให้สต็อกเต็ม 2.1 ล้านตัน สมาคมยินดีเป็นตัวกลางที่จะเป็นผู้รับซื้อข้าวและสีแปรสภาพให้ เพื่อนำไปเก็บในสต็อกรัฐ เพราะโรงสีมีเครือข่ายและเครื่องมือที่จะแปรสภาพข้าวอยู่แล้ว สามารถช่วยแบ่งเบาภาระรัฐได้ ซึ่งหากรัฐจะตั้งหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งขึ้นมารับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรงอาจเกิดความยุ่งยากในขั้นการสีแปรสภาพ ซึ่งรัฐสามารถกำหนดเงื่อนไขดูแลไม่ให้เกิดการรั่วไหลได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขการวางเงินค้ำประกันจากโรงสีเพื่อให้แน่ใจว่า การซื้อข้าวกลับเข้าโกดังจะไม่เกิดปัญหาใดๆ

"หม่อมอุ๋ย" เตือนประชาชนอย่ากังวลข้าวแพง

     ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การที่ราคาข้าวสูงในปัจจุบันถือเป็นโอกาสของชาวนา ที่จะขายข้าวได้ราคาดี ประชาชนไม่ควรจะกังวลว่า ราคาข้าวสูงไปมากกว่านี้ หรือเกิดปัญหาขาดแคลน ขณะนี้ ข้าวนาปรังกำลังเก็บเกี่ยว และชาวนาได้ขยายพื้นที่ทำนาปรังจาก 11 ล้านไร่ เป็น 13 ล้านไร่ ซึ่งจะทำให้ปีนี้ได้ผลผลิตข้าวนาปรังเพิ่มขึ้น ช่วงปลายปีนี้ก็จะมีผลผลิตข้าวนาปีออกมาอีก

     ในส่วนของรัฐบาลยังดูแลอัตราเงินเฟ้อได้ดี ที่ผ่านมา ไทยไม่มีปัญหาอัตราเงินเฟ้อมาก ซึ่งเป็นข้อดีของประเทศที่มีกำลังการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคได้จำนวนมากจนเหลือส่งออก และอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ได้สูงขึ้นจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะนี้ ก็ไม่ใช่ปัญหาน่ากังวลมากนัก เพราะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกว่าจะเป็นประเทศใด แต่ไทยก็ยังดูแลอัตราเงินเฟ้อได้ดี เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศ

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2008 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.