นายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กล่าวว่า หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกดิ่งตัวลงจากผลกระทบวิกฤตการเงินโลก ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรรายการหลักของไทย เช่น ข้าว ยางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปรับตัวลงประมาณ 50% ภาครัฐจึงควรเข้าแทรกแซงราคา เพื่อดึงกำลังซื้อจากเกษตรกรที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ 25 ล้านคน"

นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 2551/2552 ว่าราคารับจำนำที่รัฐบาลประกาศออกมานั้นต่ำเกินไป ควรเพิ่มราคาให้สูงขึ้น โดยข้าวเปลือกหอมมะลิตควรอยู่ที่ 18,000 บาท/ตัน จากที่อนุมัติ 15,000 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเจ้าที่ 14,000 บาท/ตัน แทน 12,000 บาท/ตัน และข้าวเปลือกเหนียวจาก 9,000 บาท/ตัน ควรเพิ่มเป็น 15,000-16,000 บาท/ตัน "จะไม่ส่งผลต่อการส่งออก ผู้ส่งออกไทยควรชะลอการขายข้าวเพื่อรอให้เวียดนามขายข้าวออกไปก่อน จะทำให้ขายได้ราคาดีกว่าประเทศคู่แข่ง"

อย่างไรก็ตาม นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ได้เปิดเผยว่า เวียดนามได้ขายข้าวขาว 5% ในราคาตันละ 350 เหรียญสหรัฐ ลดลงจากที่เคยเสนอขายตันละ 410 เหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มจะปรับลดลงอีก ซึ่งจะกระทบต่อราคาข้าวไทยให้ลดลงอีก เมื่อเทียบราคาข้าววันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา กับสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าราคาข้าวในประเทศลดลงตันละ 1,000 บาท และอัตราแลกเปลี่ยนจาก 34.24 บาท/เหรียญสหรัฐ เป็น 34.70 บาท/เหรียญสหรัฐ ทำให้ราคาส่งออกข้าวลดลง โดยข้าวขาว 5% จากราคาตันละ 648 เหรียญสหรัฐ เหลือ 609 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 100% จากราคา 664 เหรียญสหรัฐ เหลือ 625 เหรียญสหรัฐ ข้าวหอมมะลิชั้น 2 จากตันละ 810 เหรียญสหรัฐ เหลือ 799 เหรียญสหรัฐ ข้าวนึ่ง จาก 648 เหรียญสหรัฐ เหลือ 609 เหรียญสหรัฐ

นายชูเกียรติกล่าวว่า สมาคมจะเดินทางไปพบสมาคมส่งออกข้าวเวียดนามในวันที่ 7-9 พฤศจกายนนี้ เพื่อสอบถามเหตุผลที่เวียดนามกำหนดราคาข้าวต่ำลงมาก รวมถึงทบทวนแนวทางความร่วมมือรักษาเสถียรภาพราคาข้าวในตลาดโลกด้วยว่าแต่ละฝ่ายยึดมั่นตามที่ตกลงหรือไม่ สำหรับการเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/2552 เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เอกชนคงรอดูสถานการณ์ราคาทั้งในประเทศและต่างประเทศ หากราคายังลดลงจะกระทบต่อความจูงใจในการแย่งซื้อข้าวในตลาด

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังจับตาเวียดนามกำหนดราคาขายข้าวต่ำกว่าไทยมาก อาจเป็นเพราะมีการอุดหนุนหรือไม่ ซึ่งเป็นการผิดกฎการค้าโลก

นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการ รักษาการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.พร้อมดำเนินการในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีเต็มที่ แต่ขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่เพียงตัวกลางการจ่ายเงิน (แคชเชียร์) เท่านั้น ส่วนหน้าที่การดูแลเรื่องกำไรขาดทุนของโครงการถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพียงผู้เดียว "กรณีราคาข้าวในตลาดโลกตกต่ำ เชื่อว่าจะมีเกษตรกรให้ความสนใจนำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำมากกว่า 8 ล้านตัน ที่รัฐกำหนดไว้ เพราะจะช่วยให้ไม่ได้รับความเสียหายจากความเสี่ยงด้านราคามากนัก ส่งผลให้รัฐบาลจะต้องหาเม็ดเงินมาใช้ในการดำเนินการมากกว่า 97,000 ล้านบาท ที่กำหนดไว้เดิม"

ที่มา มติชน