นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการตรวจสอบสต็อกข้าวตามโครงการรับจำนำของรัฐบาล เปิดเผยว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐปูพรมตรวจสอบสต็อกข้าวของรัฐบาล 2.1 ล้านตัน รอบที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1-15 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ส่งผลตรวจสอบสต็อกข้าวใน 16 จังหวัดภาคกลาง และ 4 จังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง รวมจำนวนโกดัง 211 แห่ง คิดเป็นจำนวนข้าว 1.8 ล้านตันหรือ 87% ของปริมาณข้าวทั้งหมด โดยผลการตรวจสอบสต็อกข้าวรอบแรกนี้ ไม่พบว่ามีข้าวสารสูญหายแต่อย่างใด
พร้อมทั้งพบว่ามีการเก็บข้าวสารบางส่วนไว้นานมาก คือ บางโกดังเก็บข้าวปี 2547/2548 ทำให้ข้าวสารมีสีเหลืองและบางกระสอบข้าวป่นจนเป็นผงแป้งเสียหาย โดยโกดังบางแห่งไม่ได้มาตรฐาน
นายจุลยุทธ ระบุว่า ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อสรุปผลการตรวจสอบข้าวรอบที่ 1 ภายในสัปดาห์นี้พร้อมทั้งสรุปรายงานผลการตรวจสอบสต็อกข้าวและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พิจารณาในสัปดาห์หน้า โดยคณะกรรมการฯจะมีข้อเสนอใน 3 ประเด็น ได้แก่
1. จะเสนอให้มีการระบายข้าวในสต็อกของรัฐจำนวน 2.1 ล้านตันออกไป ส่วนจะระบายข้าวด้วยวิธีใดขึ้นอยู่กับรัฐบาล
2. จะมีการนำเสนอข้อสังเกตของคณะกรรมการที่ว่า เหตุใดจึงมีการเก็บข้าวสารบางส่วนไว้ในสต็อกนานมาก ทำให้ข้าวเกิดความเสียหาย เหตุใดจึงไม่มีการระบายข้าวจำนวนนี้ออกมา และเมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) กลับไม่มีคำตอบในเรื่องนี้ และ
3. จะเสนอให้รัฐบาลสร้างไซโลขึ้นมาเก็บข้าวในสต็อกของรัฐ เพราะที่ผ่านมารัฐต้องใช้งบประมาณเช่าโกดังจำนวนมาก
นายจุลยุทธ กล่าวว่า คณะกรรมการฯมีกำหนดที่จะส่งทีมเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสต็อกข้าวรัฐในโกดังส่วนที่เหลือ ซึ่งมีปริมาณข้าวสารคิดเป็น 13% ของปริมาณข้าวในสต็อกรัฐทั้งหมด
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (31 ก.ค.) นี้ นายสมัครจะเรียกประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาการบริหารจัดการข้าวครบวงจร และประชุมคณะกรรมนโยบายแห่งชาติ (กขช.)
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|