นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับสมาคมโรงสีและนายกสมาคมชาวนา เกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง วานนี้ (5 มิ.ย.) ว่า วันที่ 9 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.ที่มี น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานนัดพิเศษ เพื่อพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังทั้งหมด ตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา

     ทั้งนี้หลังจากคณะกรรมการ ธ.ก.ส.ให้ความเห็นชอบแล้ว ก็จะเสนอครม.พิจารณาในวันที่ 10 มิ.ย.ทันที ซึ่งเมื่อได้รับอนุมัติ ธ.ก.ส.จะไปดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดรับจำนำข้าวเปลือกทั่วประเทศได้อย่างเป็นทางการภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เนื่องจากต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง โดยมีหน่วยงานหลักอื่นเข้ามาร่วมด้วย ที่สำคัญเมื่อรับจำนำแล้วต้องแปรรูปทันที ไม่ให้ข้าวที่มีความชื้นสูงต้องเสียหาย อย่างไรก็ตาม จะปฏิบัติการให้เร็วที่สุด

     “แม้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้รับจำนำได้ทันที แต่กระบวนการทำงานต้องมีขั้นตอน รายละเอียด ซึ่งการประกาศของนายกรัฐมนตรีเพื่อให้เริ่มต้นดำเนินการเข้าไปรับซื้อข้าวเปลือกได้ทันที จึงต้องการขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ อย่านำถ้อยคำไปตีความจนเกิดการทะเลาะกัน” นายธีรพงษ์กล่าว

     อย่างไรก็ตาม การที่ ธ.ก.ส.เข้าไปรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรนั้น เป็นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ตลาดซื้อขายข้าวเดินหน้าได้คล่องตัวมากขึ้น ไม่ใช่ต้องการเข้าไปทำลายกลไกตลาด แต่เข้าไปช่วยให้โรงสีทำงานชั่วคราวเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจกับผู้ส่งออกข้าวด้วย และอย่าเป็นศัตรูกับ ธ.ก.ส. เพราะการทำงานของ ธ.ก.ส. ก็เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและทำให้ตลาดค้าข้าวเดินหน้าไปได้เท่านั้น ” ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าว

เปิดโรงสีเข้าโครงการอบข้าววันนี้

     นายธีรพงษ์กล่าวด้วยว่า ได้หารือร่วมกับสมาคมโรงสีข้าวไทย ตัวแทนสมาคมชาวนาไทย และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง หลังรัฐบาลให้ ธ.ก.ส.เป็นแกนหลักในการเปิดรับจำนำข้าวเปลือก โดยวันนี้ (6 มิ.ย.) จะเชิญโรงสีข้าวเข้าร่วมโครงการเพื่ออบข้าวให้แห้ง และจะตั้งคณะกรรมการ 3 ชุด ประกอบด้วยคณะกรรมการรับจำนำข้าว คณะกรรมการแปรสภาพข้าว ตั้งแต่การอบและสีข้าว และคณะกรรมการระบายข้าว โดยจะมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคลัง กระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นคณะกรรมการดูแลโครงการรับจำนำทั้ง 3 ขั้นตอน

     เนื่องจากการเก็บเกี่ยวข้าวช่วงนี้ จะมีความชื้นสูงและเป็นข้าวสด เมื่อนำไปจำนำจะได้ราคาไม่ดี อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส.จะเปิดรับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 15% อยู่ที่ราคาตันละ 14,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 15% ตันละ 9,000 บาท หากเป็นข้าวสด หรือความชื้น 25% จะอยู่ที่ตันละ 7,000 บาท โดยรัฐบาลมีเป้าหมายเปิดรับจำนำข้าวประมาณ 2 ล้านตัน ใช้เงินรับจำนำประมาณ 24,000 ล้านบาท คาดว่าชาวนาคงไม่นำข้าวมาจำนำหมด เพราะราคาตลาดจะเริ่มทำงานและขยับตัวสูงขึ้น

     "กรณีชาวนาได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ไม่สามารถรอได้ถึงวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ธ.ก.ส.อาจส่งตัวแทนพิเศษเข้าไปดูแลช่วยเหลือก่อนเป็นกรณีพิเศษ แต่ต้องนำมาร่วมกับโครงการครั้งนี้ด้วย และต้องขอให้เข้าใจการทำงานของธ.ก.ส. เพราะจำนวนเงินที่นำมาใช้นั้น เป็นเงินฝากของชาวนา รวมทั้งยังมีบางส่วนที่เป็นเงินภาษีของคนไทย ดังนั้น กระบวนการดำเนินการต้องมีความรอบคอบ ชัดเจน โปร่งใสและปลอดภัย" นายธีรพงษ์ย้ำ

โรงสีชี้รัฐประกาศรับจำนำราคาข้าวพุ่ง 4 พัน

     นายปราโมทย์ วานิชชานนท์ นายกสมาคมกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ราคาข้าวผันผวนมาก จากเดิมเดือนม.ค.-มี.ค. ราคาข้าวปรับขึ้นทุกสัปดาห์ถึง 14,000 บาทต่อตัน แต่ช่วงกลางเดือนเม.ย.-พ.ค. ราคาข้าวลดลงถึง 3,000-4,000 บาทต่อตัน ถือว่าผิดปกติของกลไกตลาดจนทำให้ชาวนาไม่พอใจ เพราะรัฐบาลเคยประกาศย้ำว่าราคาข้าวจะสูงถึง 14,000 บาท เมื่อไปขายโรงสีกลับไม่ได้ราคาดังกล่าว ดังนั้น การที่รัฐบาลให้ ธ.ก.ส.เข้ามาช่วยแก้ไข ถือเป็นมาตรการฉุกเฉินที่จะช่วยดึงราคาตลาดให้ขยับขึ้น นับเป็นการส่งสัญญาณสำคัญ

     เพราะหลังจากรัฐบาลประกาศจะรับจำนำเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ราคาข้าวสารที่ผู้ส่งออกประกาศรับซื้อได้ขยับสูงขึ้นจาก 19,000 บาท เป็น 23,000 บาทต่อตัน จึงเห็นว่าเวลาเพียง 2 วัน ราคาข้าวขยับขึ้นถึง 4,000 บาทต่อตัน นับว่าเป็นกลไกตลาดที่ผิดปกติ ซึ่งจะต้องดูแลให้ราคามีเสถียรภาพ เพราะประเทศผู้นำเข้าข้าวตลาดโลกได้ตำหนิประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 1 ไม่สามารถดูแลข้าวให้มีเสถียรภาพ

สมาคมโรงสียันเข้าร่วมโครงการรับจำนำ

     นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกปรับเพิ่มขึ้นมาอีกตันละ 1,000 บาท เป็นผลจากที่รัฐประกาศรับจำนำข้าว คาดว่าเมื่อโครงการสามารถดำเนินการได้ จะทำให้ราคาข้าวปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าตันละ 1.4 หมื่นบาท ซึ่งจะทำให้ปริมาณข้าวที่จะเข้าสู่โครงการไม่เต็มจำนวนที่รัฐตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.5 ล้านตัน หรือเข้าร่วมโครงการรับจำนำจริงเพียง 1 ล้านกว่าตันเท่านั้น

     ทั้งนี้ สมาคมโรงสียืนยันความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการกับรัฐโดยเฉพาะในส่วนการสีแปรสภาพข้าวซึ่งเป็นงานที่มีความเชี่ยวชาญอยู่ ซึ่งขอยืนยันว่าโรงสีที่ถูกขึ้นบัญชีดำไม่ถึง 10% ของจำนวนโรงสีทั้งหมด จะไม่ได้เข้าร่วมโครงการ อย่างไรก็ตามลักษณะพิเศษของโครงการนี้คือการรับซื้อข้าวจากชาวนาสีแปร และส่งขายต่างประเทศ ซึ่งสมาคมโรงสีได้เสนอตัวที่จะเป็นผู้ส่งออกให้กับรัฐเพื่อแบ่งเบาภาระให้ผู้ส่งออก

สมศักดิ์โวยนายกฯไม่เชิญประชุมเรื่องข้าว

     นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรี 11 คนเพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา และรัฐบาลประกาศรับจำนำข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% ตันละ 14,000 บาทนั้น ตนไม่ได้ถูกเชิญเข้าร่วมประชุม ซึ่งรู้สึกแปลกใจที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯไม่ได้มีส่วนร่วมตัดสินใจด้วย ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญต่อเกษตรกร

     ทั้งนี้นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯแจ้งทางโทรศัพท์ว่าจะไปประชุมเรื่องข้าว แต่ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร ก็ยังงงๆ อยู่ แต่ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) วันนี้ (6 มิ.ย.) จะเสนอข้อสังเกตให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงบทเรียนในอดีตเรื่องการรับจำนำข้าว ปัญหาทุจริตในขั้นตอนต่างๆ เพื่ออุดช่องโหว่เหล่านั้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาการกำหนดว่า ไม่ให้รับจำนำข้ามเขต เพราะบางจังหวัดมีปัญหาโรงสีไม่เข้าร่วมโครงการ หรือมีโรงสีน้อยรับจำนำได้ไม่มาก จึงควรกำหนดเป็นโซนกลุ่มจังหวัด จะช่วยให้คล่องตัวมากขึ้น

     นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลครั้งนี้ จะทำให้เกษตรกรขายข้าวในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้นจากปัจจุบันที่ราคาข้าวตกต่ำไปมาก ตันละไม่ถึง 10,000 บาท หากรัฐบาลไม่กำหนดมาตรการใดๆ ขึ้น เกษตรกรจะขาดทุนอย่างหนัก อยากให้เริ่มทำได้ภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้

“สุรพงษ์” มั่นใจธ.ก.ส.พร้อมรับจำนำ

     น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ได้คำนวณจะมีข้าวนาปรังออกมา 2 ล้านตันเศษ แต่ไม่คิดว่าคงไม่มีการจำนำทั้งหมด เพราะเมื่อกลไกตลาดเดินหน้าได้ น่าจะรับจำนำส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยเบื้องต้นจะใช้เงิน 1-2 หมื่นล้านบาท โดยใช้เงินหมุนเวียนของธ.ก.ส.มาใช้ดำเนินการ แต่กระบวนการรับจำนำต้องผ่านหลายขั้นตอนและเสนอ ครม. เพื่อให้ธ.ก.ส.มั่นใจเดินหน้าเรื่องนี้

     อย่างไรก็ตามหาก ธ.ก.ส.ประสบปัญหาขาดทุนจากการรับจำนำนั้น เรื่องนี้ความสามารถในการรับซื้อข้าวของธ.ก.ส.วันนี้ไม่ได้ทำคนเดียว จะมีกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ ร่วมด้วย และสามารถสำรวจได้ทั้งหมด โดยจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพดูแลเรื่องนี้ด้วย และที่มอบหมายให้รัฐมนตรีแบ่งโซนเข้าไปรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ด้วย

สหภาพจี้"พาณิชย์"ตั้งบอร์ด-ผู้อำนวยการอคส.

     นายวิรุฬ เพชรคงแก้ว ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้ขอเข้าพบนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ตั้งคณะกรรมการและคัดสรรผู้อำนวย อคส. 3 ครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ จึงต้องการความชัดเจนเรื่องนี้ เพราะขณะนี้ พนักงานหมดขวัญกำลังใจทำงาน เนื่องจากไม่มีการดำเนินนโยบายใดๆ ทำให้เรื่องต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อคส. อาทิเช่น การแทรกแซงราคาสินค้าเกษตร รักษาเสถียรภาพราคาสินค้า และผลิตสินค้าราคาถูกเพื่อช่วยเหลือด้านค่าครองชีพ หรือล่าสุดการรับจำนำข้าวเปลือกจากเกษตรกรที่เคยเป็นหน้าที่ของ อคส. มาตลอด กลับให้ธ.ก.ส. เป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งที่ อคส.มีบุคลากรจัดการรับจำนำข้าวจากเกษตรกร มีคลังสินค้าและโกดังอยู่ทั่วประเทศในการบริการรับซื้อสินค้าเกษตรจากประชาชนโดยตรง ซึ่งเรื่องนี้จะต้องดำเนินการเพื่อให้ อคส.กลับมาทำงานสานต่อนโยบายที่ได้ตั้งไว้

เล็งเสนอชื่อ"ธงทอง"นั่งประธานบอร์ดอคส.

     นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายในฐานะรักษาการประธานบอร์ด อคส.กล่าวว่า นายมิ่งขวัญ ได้สั่งการให้ทาบทามบุคคลที่จะเป็นกรรมการในบอร์ดอคส.มานานแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะปฏิเสธ โดยเฉพาะในกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่คุณสมบัติจะต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และไม่เคยรับงาน จากอคส.มาก่อนซึ่งหายาก ที่สำคัญบอร์ดอคส.จะได้ค่าเบี้ยประชุมครั้งละ 5,000 บาทเท่านั้น และใน 1 เดือนจะประชุมเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม ตนจะเสนอนายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานบอร์ดพร้อมคณะกรรมการให้นายมิ่งขวัญพิจารณาวันนี้ และเสนอครม.วันที่ 10 มิ.ย.นี้

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ