www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ตลาดป่วนหนักหลังรัฐล้มประมูล ผู้ส่งออกวิ่งพล่านยอมซื้อข้าวแพงหาส่งมอบตปท.


ในช่วงที่ผ่านมา ราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความสับสนเกี่ยวกับการปล่อยข้าวในสต๊อกรัฐบาล 2.6 ล้านตัน ที่เปิดประมูลขายให้กับเอกชน 17 ราย ก่อนหน้านั้นทางองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เรียกภาคเอกชนที่ชนะการประมูลมาทำสัญญา ก่อนที่มติคณะรัฐมนตรีจะออกมาค้านไม่ให้เอกชนรับมอบข้าว ทางนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกคำสั่งให้รับมอบข้าวอีกครั้งในวันที่ 15 มิ.ย. และหลังจากนั้นอีก 1 วัน ก็มีคำสั่ง ใหม่อ้างบัญชานายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกสัญญา และระงับการรับมอบข้าวทั้งหมด จนสร้างความสับสนวุ่นวายระหว่างเอกชน และ อคส., องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ในฐานะคู่สัญญามีสิทธิให้เอกชนรับมอบข้าวหรือไม่ เพราะมีข้าวบางส่วนที่ได้รับการชำระเงินครบ 100% ตามสัญญาไปแล้ว ประมาณ 2.5 แสนตัน จากปริมาณข้าวทั้งหมด 2.6 ล้านตัน

แหล่งข่าวจากวงการโรงสีข้าวกล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้นมากจนทำให้เกษตรกรนำข้าวไปขายในระบบตลาดปกติ ไม่เข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2552 ซึ่งคาดว่าจนถึงสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ก.ค.นี้ น่าจะมีข้าวเข้าโครงการรับจำนำไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 6 ล้านตัน สำหรับสรุปตัวเลขปริมาณการรับจำนำตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.- 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีข้าวเปลือกเข้าโครงการ 4.132 ล้านตัน โดยเป็นข้าวเจ้า 3.506 ล้านตัน, ข้าวปทุมธานี 5.98 แสนตัน และข้าวเหนียว 2.68 หมื่นตัน

สาเหตุที่ราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้นนั้นเกิดจาก 2 ปัจจัย คือ 1)รัฐบาลเพิ่มปริมาณการรับจำนำข้าวนาปรังปี 2552 อีก 2 ล้านตัน และ 2)เอกชนที่มีภาระผูกพันกับลูกค้าต่างประเทศต้องออกไปหาซื้อข้าวในตลาดมาส่งมอบให้กับลูกค้า เพื่อให้ทันกำหนดเวลา รักษาความเชื่อมั่นต่อลูกค้า เพื่อไม่ให้ถูกลูกค้าปรับ หรือยกเลิกสัญญา ส่งผลทำให้ราคาข้าวเปลือก 5% ในตลาดปรับตัวสูงขึ้นเกวียนละ 2,000-3,000 บาท โดยผู้ส่งออกบางรายยอมซื้อข้าวราคากระสอบละ 1,750 บาท จากท้องตลาด เพื่อไปส่งมอบแทนข้าวที่ซื้อจากรัฐบาล ซึ่งมีต้นทุนเพียง 1,500-1,550 บาท แต่อย่างไรก็ตามผู้ส่งออกก็ยังได้กำไรในแง่ที่ข้าวสดจากท้องตลาดเป็นข้าวคุณภาพดีกว่าข้าวรัฐบาล ซึ่งอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงถึงตันละ 1,000 บาท

"ในการประชุมสมาชิกสมาคมโรงสีข้าวไทย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.นี้ มีการหยิบประเด็นปัญหาการรับจำนำ เพราะโรงสีกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการบางส่วนไม่พอใจที่เปลี่ยนแปลงระยะเวลาการสีแปรสภาพข้าวจาก 15 วัน ให้เป็น 30 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้ของทะลักเข้าโครงการเต็มเร็วเกินไป แต่โดยรวมข้าวคงเข้าโครงการน้อย และโควตาที่ได้รับจัดสรรในแต่ละจังหวัดคงมีข้าวเข้าจำนำไม่เต็มโควตา เพราะราคาตลาดดีดตัวสูง ตลาดจริงไม่มีของ ผู้ส่งออกต้องแย่งซื้อกัน โรงสีก็ไม่ยุให้ชาวบ้านจำนำ เพราะถ้าจำนำโรงสีก็ต้องซื้อข้าวเพิ่ม 50% ซึ่งเป็นต้นทุนของโรงสี" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวกล่าวว่า รัฐบาลควรเร่งพิจารณาหลักเกณฑ์แนวทางการระบายสต๊อกข้าว เพราะถึงแม้ว่าข้าวที่มีอยู่ 4-5 ล้านตันจะไม่มากนัก ยังมีเวลาก่อนที่จะเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนา ปี 2552/2553 ซึ่งคงจะเริ่มเดือน ต.ค. รัฐบาลสามารถปล่อยระบายลอตละ 2-3 แสนตันแต่รัฐบาลควรมีความชัดเจนว่า จะขายข้าวหรือไม่ เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงระดับนโยบายไปมาอย่างนี้อาจจะทำให้ลูกค้าต่างชาติขาดความเชื่อมั่นต่อการส่งออกข้าวไทยได้

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.