นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับเวียดนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ไทยและเวียดนามได้ตกลงที่จะร่วมมือในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการลดต้นทุนการขนส่ง และการพัฒนาคุณภาพข้าวเท่านั้น ยังไม่มีการหารือถึงความร่วมมือในการตั้งยุทธศาสตร์ราคาข้าวร่วมกันแต่อย่างใด ซึ่งตนมองว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ เพราะทั้ง 2 ประเทศมีความแตกต่างด้านต้นทุนและราคา รวมถึงความไว้วางใจระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ

"เรื่องการกำหนดราคาร่วมกันทำได้ยาก เพราะเวียดนามก็ระแวงไทยอยู่ เนื่องจากรัฐบาลไทยชุดก่อนเคยพยายามตกลงเรื่องราคาไว้ แต่หลังจากหารือไทยก็ประกาศขายข้าวในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนถึงล้านตัน ทำให้เวียดนามขาดความเชื่อมั่นในการร่วมมือ จึงใช้วิธีร่วมมือด้านข้อมูลไปก่อน คาดว่าจะมีการหารือรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้งในเดือนเมษายนนี้ และหวังว่าถ้าทั้ง 2 ประเทศร่วมมือกันได้จะดึงดูดให้ผู้ค้าข้าวอย่างอินเดียและปากีสถานเข้าร่วมด้วย" นายชูเกียรติ กล่าว

สำหรับการส่งออกข้าวของไทยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีปริมาณ 6 แสนตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออกได้ 1.7 ล้านตัน หรือคิดเป็น 40% แต่ปริมาณดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับอานิสงค์จากการที่อินเดียยังคงระงับการส่งออกข้าว

อย่างไรก็ตาม ตลาดข้าวของไทยในส่วนของข้าวขาว พบว่า คำสั่งซื้อ(ออเดอร์) ในตลาดที่เคยส่งออกหายไปทั้งหมด ทั้งมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ที่หันไปซื้อข้าวเวียดนามที่ถูกกว่าแทน เช่นเดียวกับข้าวหอมมะลิที่ไทยเคยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุด ก็เริ่มถูกเวียดนามเข้ามาตีตลาดในแถบเอเซีย เพราะข้าวหอมเวียดนามมีราคาถูกว่าข้าวหอมมะลิไทยถึงตันละ 150 เหรียญสหรัฐ ถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไปข้าวหอมมะลิที่เคยเป็นจุดเด่นของข้าวไทย ก็อาจเสียตลาดให้เวียดนามได้

ที่มา แนวหน้า