นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เก็บตัวอย่างข้าวแจสแมน ของสหรัฐอเมริกาที่วางจำหน่ายในตลาด มาหุงทดสอบแล้วปรากฏว่ารสชาติความหอม นุ่ม สู้ข้าวหอมมะลิของไทยไม่ได้ ลักษณะกลิ่นคล้ายกลิ่นกะทิ เหมือนข้าวเหนียวมูน และขนาดเมล็ดจะมีความยาวน้อยกว่า ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะไม่กระทบกับตลาดข้าวหอมมะลิของไทยที่มีคุณภาพอยู่ในระดับสูง และเชื่อว่าร้านอาหารเอเชีย ที่อยู่ในสหรัฐฯ ทั้งเวียดนาม จีน และไทย จะยังสั่งข้าวหอมมะลิจากไทยเหมือนเดิม เพราะต้องการรักษาระดับคุณภาพเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าข้าวแจสแมนให้ผลผลิตต่อไร่มากกว่าข้าวหอมมะลิของไทย 1 ตันต่อไร่ โดยข้าวหอมมะลิไทยให้ผลผลิตประมาณ 350 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งแตกต่างกันมาก เพราะข้าวหอมมะลิของไทยต้องปลูกในพื้นที่แห้งแล้งโดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จึงจะให้ผลผลิตที่มีความหอมพิเศษ กว่าที่อื่น
ทั้งนี้ การที่สหรัฐฯ ใช้เวลาวิจัยข้าวพันธุ์นี้นานกว่า 9 ปี คงต้องการทดแทนการนำเข้าข้าวหอมมะลิจากต่างประเทศ โดยเฉพาะไทยที่ส่งออกข้าวหอมมะลิไปสหรัฐฯ กว่าปีละ 4 แสนตัน ซึ่งสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการขยายพื้นที่ปลูกให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามลักษณะการรับประทานของชาวอเมริกันจะทานข้าวเหมือนทานสลัด ไม่ใช้วิธีการหุงแบบข้าวของไทย แต่จะใช้การผ่านน้ำร้อนทำให้ข้าวสุกนอก แต่มีความกรุบข้างใน กลุ่มผู้บริโภคจึงน่าจะเป็นคนละกลุ่มกับที่บริโภคข้าวหอมมะลิของไทย
ที่มา สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
|