นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการ รักษาการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากกรณีครม. อนุมัติให้นำโครงการประกันราคาพืชผลมาใช้ทดแทนการรับจำนำสินค้าเกษตรบางส่วนนั้น ขณะนี้กรอบแนวทางการประกันราคา ธ.ก.ส. ได้ข้อสรุปและพร้อมเสนอรมว.คลัง และครม.รับทราบต่อไป โดยเบื้องต้นจะประกันราคาเฉพาะข้าวหอมมะลิ นำร่องใน 8 จังหวัดอีสานใต้ ประกอบด้วย สุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร อุบลราชธานี อุดรธานี นครราชสีมา และร้อยเอ็ด มีเป้าหมายเกษตรกรนำข้าวหอมมะลิเข้าร่วมโครงการ 2 แสนตัน คาดจะเริ่มขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ภายในเดือนก.ค.นี้

สำหรับราคาประกันจะต้องสูงกว่าราคาจำนำอย่างต่ำ 1,000 บาท/ตัน หรืออยู่ที่ 14,000 บาท/ตัน จากราคาจำนำที่ขณะนี้ 13,000 บาท/ตัน เพื่อจูงใจเกษตรกร สำหรับปีแรกเกษตรกรไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกัน แต่ในปีถัดไปอาจคิดที่ 0.1% ของราคาประกัน หรือชาวนาจะจ่ายปีละ 100 บาท คาดปีแรกรัฐจะใช้งบประมาณโครงการนี้เพียง 400 ล้านบาทเท่านั้น

"คาด 2-3 ปี การประกันราคาจะเข้ามาแทนที่การรับจำนำข้าวได้ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้ลดภาระเงินงบประมาณที่ต่อปีต้องจ่ายเพื่อรับจำนำข้าวเป็นแสนล้านบาท จะเหลือเพียงหลักร้อยหรือพันล้านบาทเท่านั้น" นายเอ็นนูกล่าว

นายเอ็นนูกล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันการฮั้วระหว่างพ่อค้าและเกษตรกร กรณีที่ทำให้ราคารับซื้อข้าวถูกกว่าราคาประกันเพื่อทำให้สามารถรับเงินค่าประกันจากรัฐและยังได้เงินจากการฮั้วจากพ่อค้านั้น ได้มีแนวทางป้องกันไว้แล้วโดยจะขึ้นทะเบียนโรงสีที่ได้มาตรฐานเป็นโรงสีธงเขียว

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังหารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมโรงสีข้าวไทย ว่า กรณีที่เกษตรกรเรียกร้องให้รัฐบาลขยายโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง ปี"52 นั้นกระทรวงพาณิชย์จะรวบรวมตัวเลขผลผลิตข้าวที่ยังมีเหลืออยู่ในขณะนี้ เนื่องจากตัวเลขของแต่ละหน่วยงานยังแตกต่างกัน โดยจะนำไปวิเคราะห์อีกครั้งเพื่อเสนอให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณา ซึ่งการที่จะขยายโครงการออกไปหรือไม่นั้นให้ขึ้นกับนโยบายของรัฐบาล

ด้านนายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณข้าวในตลาดเหลืออยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งหมด หรือเหลือ 4 ล้านตัน โดยเกษตรกรทำนาปรังปีละ 2 ครั้ง แต่การจำนำมีครั้งเดียว นอกจากนี้ การที่รัฐบาลลดวงเงินการรับจำนำเหลือ 3.5 แสนบาท/คน หรือคิดเป็นข้าวปริมาณ 29 ตัน/คน จึงเห็นว่ารัฐบาลน่าจะขยายการรับจำนำขึ้นอีกตามสิทธิ์ของเกษตรกรที่ควรจะได้ หรือขยายอีกประมาณ 2 ล้านตันของผลผลิตที่เหลือ

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า หากข้าวนาปรังในตลาดมีอยู่มากจริงก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่รัฐจะต้องขยายการรับจำนำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

ที่มา ข่าวสด