นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะคู่สัญญาซื้อขายข้าวกับเอกชน 17 ราย ที่ชนะการประมูลข้าวสต็อกรัฐบาลจำนวน 1.9 ล้านตัน ให้คืนเงินวางค้ำประกัน 5% ของมูลค่าข้าวที่แต่ละรายวางเงินค้ำประกันไว้ทั้งหมด รวมถึงเงินค่าข้าวที่เอกชนได้ชำระบางส่วนจำนวน 9.6 หมื่นตันด้วย ส่วนข้าวที่เอกชนมีการขนย้ายออกจากโกดังไปแล้ว ให้ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน ไม่ต้องนำมาคืน เพราะมีการชำระเงินอย่างถูกต้อง
“เรื่องการเคลียร์ปัญหาการประมูลข้าว ที่มีการสั่งยกเลิกไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดให้ อคส.คืนเงินค้ำประกันและเงินที่ชำระค่าข้าวในส่วนที่ยังไม่มีการขนย้ายออกจากโกดังคืนให้เอกชนทั้งหมด หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของ อคส. ซึ่งจะใช้ระยะเวลาการคืนเงินนานเท่าไร ขึ้นอยู่กับขั้นตอนของหน่วยงาน” นางพรทิวา กล่าว
สำหรับการระบายสต็อกข้าวรัฐบาลที่เหลือ จะต้องรอหลักเกณฑ์จากกรมการค้าต่างประเทศ จัดทำแผนยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรก่อนว่า มีความเห็นอย่างไร ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งนี้คาดว่าจะมีการประชุม กขช.ภายในสัปดาห์หน้า
นายยงยศ ปาละนิติเสนา รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า หลังจากได้คำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเรียกผู้ชนะประมูลทั้ง 14 ราย ที่ได้วางเงินค้ำประกันและชำระค่าข้าวบางส่วน มาชี้แจงและตกลงบอกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวที่ทำไว้กับ อคส. เพื่อให้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย พร้อมกับคืนเงินทั้งหมด แต่หากเอกชนรายใดไม่ต้องการยกเลิกสัญญา ก็เป็นสิทธิที่จะฟ้องร้อง แต่เชื่อว่าไม่มีผู้ประกอบการรายใดฟ้องร้อง โดยคาดว่าจะเรียกประชุมได้ในสัปดาห์หน้า
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ได้มีการเซ็นอนุมัติขายข้าวเมื่อวันที่ 12 พ.ค. โดย อคส.ได้เรียกผู้ชนะประมูลเข้ามาทำสัญญาระหว่างวันที่ 13-22 พ.ค. มีจำนวน 14 ราย รวมปริมาณข้าว 1.94 ล้านตัน มีการวางเงินค้ำประกัน 5% ของมูลค่าสินค้า (แบงก์การันตี) วงเงิน 2.76 หมื่นล้านบาท และได้มีการชำระเงินค่าข้าวแล้วบางส่วน 6 ราย รวมเป็นปริมาณ 9.65 หมื่นตัน มูลค่า 1,223 ล้านบาท
การประมูลข้าวรอบนี้ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนพ.ค. โดยนางพรทิวา อาศัยอำนาจคณะอนุกรรมการระบายข้าว อนุมัติให้ อคส.เซ็นสัญญาขายข้าวให้ภาคเอกชน แต่ที่ประชุม ครม.ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติให้การขายสินค้าเกษตร ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการที่ดูแลพืชแต่ละชนิด รวมทั้งเสนอให้ครม.เห็นชอบด้วยอีกครั้ง นางพรทิวา ยืนยันมาโดยตลอดว่าการอนุมัติขายดำเนินการ ก่อนมติครม.ออกมา ขณะที่ท่าทีของนายกรัฐมนตรีต้องการให้ล้มประมูลครั้งนี้และเปิดประมูลใหม่ตามมติ ครม.ที่ออกมา
สำหรับสถิติการส่งออกข้าวเดือนมิ.ย. 2552 มีปริมาณ 8.69 แสนตัน ลดลง 8.9% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้การส่งออกข้าวในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) มีปริมาณ 4.43 ล้านตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.98% เท่ากับไทยยังต้องส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลังให้ได้อีก 4.1 ล้านตัน เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายการส่งออกข้าวที่กำหนดไว้ 8.5 ล้านตัน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |