นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในปี 2552 คาดว่าจะลดลงมากทั้งในแง่ปริมาณและราคาข้าว คาดว่าจะส่งออกได้ 8-8.5 ล้านตัน น้อยกว่าปี 2551 ที่ส่งออกได้ถึง 10 ล้านตัน เพราะเวียดนามและอินเดียกลับมาส่งออกได้แล้ว ทำให้เป็นคู่แข่งทั้งข้าว 5% และข้าวนึ่ง
นอกจากนี้ การค้าข้าวทั่วโลกในปีนี้จะลดลงเหลือ 28 ล้านตัน จาก 30 ล้านตัน เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้ผู้ซื้อเก็บสต๊อกลดลงเช่นกัน
ขณะที่มูลค่าจะลดลงประมาณ 4 หมื่นล้านบาท จากปีที่แล้วมูลค่าส่งออกอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท เหลือเพียง 1.6 แสนล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลจะต้องแบกรับภาระจำนำข้าวอีกมาก ซึ่งหลังปีใหม่ทางสมาคมฯ จะปรึกษาหารือกับรมว.พาณิชย์ ถึงแนวทางบริหารข้าวต่อไป
ทั้งนี้ ด้านน.ส.สิริพรรณ ลิขิตวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมการค้าใน ต่างประเทศ ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า เมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นได้รายงานข่าวว่า กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น ตรวจพบสาร “อะฟลาท็อกซิน บี 1 ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีสารพิษรุนแรงในข้าวที่นำเข้าจากไทย สำหรับการบริโภคและการผลิตอาหารแปรรูป ทำให้ผู้บริโภคญี่ปุ่นเกิดความกังวลและทำลายภาพลักษณ์ข้าวไทย เพราะตามกฎหมายความปลอดภัยของอาหารจะต้องไม่พบสารดังกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ก่อนหน้านี้สวีเดนได้ตรวจพบสารอะฟลา ท็อกซินในข้าวกล้องหอมมะลิที่ นำเข้าจากไทยในระดับที่เกินกว่ากำหนดเช่นกัน จึงได้เรียกคืนสินค้าออกจากท้องตลาด ขณะเดียวกันสหภาพยุโรป (อียู) ได้แจ้งเตือนในระบบเตือนภัยอาหารแล้ว จึงขอให้ผู้ส่งออกไทยระมัดระวังให้มากขึ้น
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ได้ประกาศจัดสรรปริมาณส่งออกข้าวไปสหภาพยุโรปปี 2552 ได้แก่ ข้าวขาว 21,455 ตัน และข้าวหัก 5.2 หมื่นตัน โดยข้าวขาวมีผู้ได้รับการจัดสรร 114 ราย ผู้ที่ได้รับการจัดสรรมากที่สุดคือ บริษัท นครหลวง ค้าข้าว ได้ 2,615 ตัน
์ที่มา โพสต์ทูเดย์
|