แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่ากระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างเตรียมนำเรื่องราคารับจำนำข้าวหอมจังหวัด กรณีจังหวัดนครสวรรค์ เสนอคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเพื่อพิจารณา ทั้งนี้จากการตรวจดีเอ็นอีข้าวหอมจังหวัดนครสวรรค์เป็นข้าวหอมมะลิ 105 แต่กายภาพคือพื้นที่ปลูกในภาคกลางไม่ใช่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) เพราะฉะนั้นราคารับจำนำจะเทียบเท่าหอมมะลิ105 ภาคอีสานไม่ได้ ดังนั้นราคาจำนำข้าวหอมจังหวัดนครสวรรค์จะต่ำกว่าข้าวหอมมะลิ105 ภาคอีสานตันละ 1,000 บาท หรือเท่ากับตันละ 14,000 บาท (ความชื้น15%)
"ข้าวหอมจังหวัด ซึ่งเป็นข้าวที่เกษตรกรจังหวัดต่างๆ นำข้าวหอมมะลิ 105 มาปลูก แต่เนื่องจากข้าวหอมมะลิ 105 หากปลูกพื้นที่ภาคอีสานจะมีความหอม ความนุ่ม แต่เมื่อนำมาปลูกในพื้นที่จังหวัดต่างๆ คุณสมบัติจะลดลงไป จึงเรียกข้าวหอมจังหวัด เช่นเดียวกับข้าวหอมจังหวัดนครสวรรค์ แม้ผลการตรวจดีเอ็นเอจะเป็นข้าวหอมมะลิ 105 แต่ ทำเลที่ปลูกซึ่งเป็นภาคกลางคุณภาพจึงสู้ข้าวหอมมะลิ105ภาคอีสานไม่ได้ ต้องเป็นเกรดรองลงมา โดยกระทรวงพาณิชย์จะเสนอราคาจำนำที่ตันละ 14,000 บาท หรือต่ำกว่าราคาจำนำหอมมะลิ 105 ภาคอีสาน ตันละ 1,000 บาท แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการกขช. ว่าจะอนุมัติหรือไม่"
ด้านแหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยกรณีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ที่มีนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการประมูลขายข้าวสมัยนายไชยา สะสมทรัพย์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผลการตรวจสอบสรุปออกมาว่าการจำหน่ายข้าวไม่พบความผิดปกติ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นคือผู้ส่งออกที่ประมูลได้ได้เร่งนำข้าวออกทั้งส่งออกต่างประเทศ และจำหน่ายให้กับโรงสีและผู้ค้าข้าวในประเทศ
โดยขายในประเทศราคาที่เสนอขายจากก่อนหน้าที่นำข้าวออกจากคลังกลางได้จำนวนหนึ่งก่อนจะระงับการนำข้าวออกเพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบนั้น ผู้ประมูลได้นำออกขายข้าวขาวตันละ 15,000-15,500 บาท จากที่ประมูลซื้อจากรัฐบาลมาตันละ 11,000-12,000 บาท แต่ขณะนี้ราคาขายได้ขึ้นเป็นตันละ 16,000 บาทแล้ว เนื่องจากผู้ค้าข้าวในประเทศมีความต้องการข้าวเก่ามาก เพื่อนำมาขายให้กับผู้บริโภคในประเทศที่นิยมบริโภคข้าวเก่า เพราะขณะนี้ข้าวเก่าในท้องตลาดขาดแคลน เนื่องจากปีที่ผ่านมาข้าวราคาสูงผู้ค้าในประเทศระบายออกหมด
นอกจากนี้ยังมีโรงสีจำนวนหนึ่งที่มีความต้องการข้าวเพื่อส่งเข้าคลังกลางรัฐบาล โดยโรงสีกลุ่มนี้จะนำข้าวใหม่ที่อยู่ระหว่างรับจำนำสีขายให้กับผู้ส่งออก แล้วซื้อข้าวเก่าจากผู้ที่ประมูลสต๊อกรัฐบาลได้ส่งมอบเข้าคลังกลาง โดยมีการซื้อข้าวเก่า ตันละ 18,000 บาทสำหรับข้าวหอมปทุมธานี1 จากผู้ส่งออกที่ประมูลมาเพียงตันละ 13,000 บาทเท่านั้น เท่ากับผู้ส่งออกฟันกำไรตันละ 5,000 บาท ขณะที่โรงสีนำข้าวหอมปทุมธานีใหม่ขายผู้ส่งออกในรูปของข้าวใหม่เพื่อส่งออกต่างประเทศ ตันละ 23,500 บาท แต่ซื้อข้าวเก่าส่งเข้าคลังกลางตันละ 18,000 บาท โรงสีกำไรตันละ 5,000-5,500 บาท
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
|