www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

พาณิชย์เสนอ กขช.ตีกรอบข้าวอาฟตา ชง 6 มาตรการรับมือราคาประกันร่วง


แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วานนี้ (5 ต.ค.) คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (อนุ กขช.) ได้พิจารณามาตรการรองรับการเปิดตลาดข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) โดยเตรียมที่จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารการนำเข้าภายใต้อาฟตา โดยมี นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ทำหน้าที่กำหนดมาตรการดูแลการนำเข้าโดยกำหนดคุณสมบัติผู้นำเข้า ชนิดข้าวที่จะให้นำเข้า แนวทางการนำเข้า และพิจารณาเก็บค่าธรรมเนียมจากข้าวนำเข้า

แนวทางที่จะนำมาใช้ ได้แก่ กำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมเป็นผู้นำเข้า ให้นำเข้าได้เฉพาะปลายข้าว และการนำเข้าต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยต้องผ่านการตรวจสอบสารตกค้าง สารปนเปื้อน ปลอดศัตรูพืช ปราศจากจีเอ็มโอ ผู้นำเข้าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับข้าวที่นำเข้า เพื่อนำเงินที่ได้มาจัดตั้งเป็นกองทุนพัฒนาชาวนาไทย โดยจะเสนอให้ กขช.พิจารณามาตรการทั้งหมดโดยเร็ว

ส่วนข้อเสนอคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร ที่เสนอให้พิจารณาชะลอการลดภาษีนำเข้าข้าวเหลือ 0% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 ออกไปก่อนนั้น เป็นเรื่องที่ กขช. จะพิจารณา หากชะลอออกไป มาตรการต่างๆ ก็จะยังไม่ต้องใช้
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปี 2552/2553 ให้ กขช. พิจารณา 6 มาตรการ เป็นมาตรการเสริมโครงการประกันราคาในเดือนต.ค. นี้ รองรับราคาข้าวตกต่ำ
6 มาตรการ ได้แก่ 1.รัฐเข้าไปอุดหนุนดอกเบี้ยให้โรงสี พ่อค้าข้าว และภาคเอกชนเข้ารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคานำตลาด เพื่อเป็นการช่วยดึงราคาไม่ตกต่ำ 2.รัฐบาลเข้าไปสนับสนุนเพิ่มสภาพคล่องแก่องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) เข้าไปรับซื้อข้าวดึงส่วนเกินออกจากตลาด 3.ส่งเสริมจัดตลาดนัดข้าวเปลือก

4.กรมการค้าต่างประเทศเร่งหาตลาดขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพื่อระบายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ออกนอกประเทศให้เร็วที่สุด ทันช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูกที่กำลังเริ่มขึ้น โดยขณะนี้ทราบว่ามี 2-3 ประเทศแสดงความต้องการซื้อข้าวจากไทย เช่น จีน ฟิลิปปินส์ อยู่ระหว่างการเจรจาปริมาณ และราคา เพื่อลดปริมาณข้าวในสต็อก และไม่ให้กระทบต่อราคาในประเทศ 5.ให้ อคส.พิจารณาออกมาตรการชะลอการขายข้าวของชาวนา โดยให้ชาวนานำข้าวเปลือกที่ปลูกได้ มาฝากเก็บไว้ในยุ้งฉางของเกษตรกร เพื่อชะลอการปล่อยข้าวออกสู่ตลาด โดยเน้นเป้าหมาย ข้าวเหนียว ข้าวเจ้า ในภาคอีสาน และภาคเหนือ และ 6.ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรออกสินเชื่อพิเศษ ให้เกษตรกร และสหกรณ์ สร้างและพัฒนายุ้งฉาง เพื่อจัดเก็บข้าวของตัวเอง

"มีหลายประเทศต้องการซื้อข้าวไทย กระทรวงพาณิชย์ก็ต้องการเร่งระบายข้าวในต้นฤดู เนื่องจากปีนี้มีปริมาณข้าวเปลือกนาปีสูงถึง 22-23 ล้านตันข้าวเปลือก และจะใช้มาตรการการประกันราคาข้าวเปลือกเป็นปีแรก โดยภาครัฐจะเข้าไปดำเนินการแทรกแซงราคาข้าวประมาณ 2 ล้านตันข้าวเปลือก เพื่อไม่ให้ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรได้รับต่ำมากจนเกินไป”

นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมเสนอให้รัฐบาลเปิดเสรีนำเข้าข้าวภายใต้อาฟตา แบบเปิดเสรีจริง ไม่ใช่กำหนดให้นำเข้าแค่บางอุตสาหกรรมเท่านั้น กรณีให้บางอุตสาหกรรมที่ใช้ปลายข้าวเป็นผู้นำเข้า มีบางอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์ เช่น เบียร์ แป้ง และอาหารสัตว์ ส่วนข้อกังวลที่ว่าจะมีการนำเข้าข้าวเข้ามาปลอมปนกับข้าวไทยนั้น ไม่น่าเป็นห่วง เพราะข้าวเพื่อนบ้านกับข้าวไทยคุณภาพต่างกัน

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.