แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ผู้ส่งออกรายใหญ่ 4-5 รายที่เสนอซื้อข้าวในสต๊อครัฐกว่า 3 ล้านตันแบบยกล็อต มีการนัดหารือและประเมินสถานการณ์หลังการยื่นซองเสนอราคาเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีบริษัท 2 รายที่เสนอซื้อแบบยกล็อตและเป็นบริษัทที่ไม่รู้จักในวงการ โดยเฉพาะบริษัท วุฒิกวี จำกัด ที่เสนอซื้อในปริมาณสูง 2.6 ล้านตัน และให้เสนอราคาซื้อสูงสุดถึง 14,600 บาทต่อตัน ขณะที่ผู้ส่งออกรายใหญ่เสนอราคาซื้อไม่เกิน 14,000 บาท และพบว่าบริษัทวุฒิกวีก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
"ตอนนี้รายใหญ่มีการสอบถามผู้ส่งออกรายอื่นว่า สนใจที่จะซื้อข้าวหรือไม่ เพราะจะมีการแบ่งให้บางส่วน เพราะเห็นว่าราคาที่วุฒิกวีเสนอซื้อค่อนข้างสูง อาจต้องเจรจาต่อรองราคาเพิ่มขึ้นและอาจไม่ได้ข้าวทั้งหมดที่เสนอซื้อแข่ง" แหล่งข่าวกล่าว
จากการตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนของกระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท วุฒิกวี จำกัด ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2547 มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท และในปี 2550 งบการเงินในส่วนของงบดุล มีสินทรัพย์เพียง 267,333.76 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่มีสินทรัพย์ 184,017.92 บาท และมีรายได้ในปี 2550 เพียง 72,000 บาท จากค่าที่ปรึกษา ขณะที่ปี 2549 มีรายได้ 1,710.38 บาท และมีกำไร 6,011.27 บาท"
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานผลการเปิดซอง คงต้องรอการสรุปของคณะเจรจาต่อรองราคา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า
"ที่มีข่าวว่านักการเมืองเรียกหัวคิวการขายข้าวครั้งนี้ตันละ 2,000 บาท ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และการที่หลายฝ่ายมองว่าไม่โปร่งใสนั้น ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะการประมูลข้าวทุกครั้งก็มีการจับตามองประเด็นเรื่องการทุจริต หรือไม่ก็ถูกมองว่าขายข้าวขาดทุน แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีการตรวจสอบ" นางพรทิวากล่าว
รายงานข่าวจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) แจ้งว่า ผลการเสนอซื้อข้าวในสต๊อครัฐบาลเบื้องต้น พบว่ามีผู้ที่เสนอซื้อข้าวในสต๊อครัฐบาลปริมาณสูงที่สุดครั้งนี้ มี 4 ราย คือ บริษัท วุฒิกวี จำกัด บริษัท สิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ไชยพรไรซ์แอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด และบริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ จำกัด ส่วนบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ยื่นเสนอซื้อไม่เหมายกล็อต แต่เสนอซื้อมากเป็นอันดับที่ 5
ทั้งนี้ วุฒิกวีเสนอซื้อข้าวขาว 5% ปี 2551/52 ปริมาณ 1.113 ล้านตัน และปี 2552 ปริมาณ 1.318 ล้านตัน ตันละ 1.46 หมื่นบาทราคาเดียว ราคารวม 3.5 หมื่นล้านบาท
ที่มา มติชน |
