นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (8 มิ.ย.) สมาคมจะร่วมประชุมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรณีผู้ส่งออก 17 รายเซ็นสัญญาซื้อข้าวจากรัฐปริมาณ 2 ล้านตัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถขนข้าวออกจากโกดังได้ นอกจากนี้ที่ประชุมจะหารือสถานการณ์ส่งออกข้าวทั่วไป ซึ่งขณะนี้ประสบปัญหาราคาข้าวไทยไม่สามารถแข่งขันได้
“ผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบบางราย ต้องการไปพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อสอบถามความชัดเจนการแก้ปัญหาซื้อ-ขายข้าวกับรัฐ แต่สมาคมเห็นว่าน่าจะหารือในระดับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งสมาคมเป็นสมาชิกอยู่ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจนก่อนดำเนินการใดๆ ต่อไป” นายชูเกียรติ กล่าว
นายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธานกรรมการ บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด กล่าวว่า ในการประชุมร่วมกับสภาหอการค้าฯ จะเสนอให้สภาหอฯ เป็นตัวกลาง เสนอรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาข้าว ในส่วนที่ผู้ส่งออกได้ชำระเงินไปแล้ว ให้สามารถขนข้าวออกจากโกดัง เพื่อนำไปส่งมอบให้ผู้ซื้อได้ เนื่องจากขณะนี้บริษัทต้องซื้อข้าวบางส่วนจากโรงสีซึ่งมีราคาสูงมาก โดยสัดส่วนข้าวดังกล่าวเพียง 1.24 หมื่นตันเท่านั้น
“ผมอยากเจอนายกฯ จะถามว่า ผมขอข้าวเท่านี้จะได้หรือไม่ เพราะผมจ่ายเงินไปแล้ว ลูกค้าก็นำเรือมารับแล้ว ผมได้รับความเสียหาย ซึ่งการประชุมกับหอการค้าจะมีการระดมความเห็นว่า จะทำอย่างไรกับปัญหานี้ และจะนำเสนอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการกับข้าวส่วนนี้เป็นพิเศษ เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกก่อน ส่วนกองใหญ่ก็ค่อยมาคุยกันทีหลังได้” นายสมพงษ์ กล่าว
ส่วนแนวทางดำเนินการกับสัญญาข้าวนั้น ทางบริษัทได้รับแจ้งจากกระทรวงพาณิชย์ว่า กำลังให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาตัดสินว่าสามารถยกเลิกสัญญาดังกล่าวได้หรือไม่ จะใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน หากผลการตัดสินให้ยกเลิกสัญญาบริษัท อาจต้องพิจารณาเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมิน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้บริษัทฯพร้อมหารือกับภาครัฐและยินดีให้มีการต่อรองราคาอีกครั้ง เพื่อให้ปัญหานี้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ (8 มิ.ย.) บริษัทจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองอีกทางหนึ่ง ให้รัฐบาลอนุญาตให้บริษัทนำข้าว ส่วนที่จ่ายเงินแล้วออกจากโกดังเพื่อนำไปส่งออก เพราะทางบริษัทมีหลักฐานคำสั่งซื้อจากต่างประเทศชัดเจน และก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการตามเงื่อนไข ที่รัฐกำหนดให้ทุกประการ แต่บริษัทได้รับความเสียหายจากความผิดพลาดของภาครัฐ
การประมูลเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2552 มีหลายบริษัทชนะประมูล เช่น บริษัท สยามอินดิก้า จำนวน 6.8 แสนตัน, บริษัท เอเชีย โกลเด้นไรซ์ จำกัด จำนวน 5-6 แสนตัน, บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด จำนวน 5 แสนตัน, บริษัทไชยพร จำนวน 2 แสนตัน, บริษัท พงษ์ลาภ จำนวน 2 แสนตัน เป็นต้น ราคาเฉลี่ย 1.42-1.55 หมื่นบาทต่อตัน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |