www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

เคาะราคาตลาดอ้างอิงข้าวสูงลิ่ว สวนทางราคาขายจริงต่ำรับเบ็ดเสร็จไม่ถึงหมื่นบาท


นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ชาวนาทั่วประเทศได้สอบถามกันเข้ามาจำนวนมากเกี่ยวกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรที่ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 แต่ในทางปฏิบัติชาวนายังไม่สามารถใช้สิทธิ์ประกันรายได้ได้ เพราะว่าขณะนี้ยังไม่ได้ทำสัญญากับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขณะเดียวกันยังมีโครงการจำนำซึ่งรัฐบาลได้ขยายโครงการรับจำนำจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายนออกไปเป็น 15 ตุลาคม

ประกอบกับมีโครงการจำนำในยุ้งฉางของธ.ก.ส.อีก ชาวนาจึงมีความสับสนเพราะทั้งโครงการจำนำและโครงการประกันรายได้ยังทับซ้อนกันอยู่ แต่ใช้สิทธิ์อะไรไม่ได้สักอย่างต้องขายให้โรงสีราคาต่ำ ซึ่งตนไม่สามารถให้รายละเอียดใดๆ กับชาวนาได้ จึงอยากให้รัฐบาลเน้นการประชาสัมพันธ์รายละเอียดโครงการให้มาก วิธีที่ได้ผลน่าจะผ่านทางสถานีโทรทัศน์

"เดิมทีกระทรวงพาณิชย์ได้มีหนังสือเชิญผู้แทนชาวนา โรงสี ผู้ส่งออก ผู้เกี่ยวข้องนัดฟังคำชี้แจงวันพุธที่ 7 ตุลาคม ศกนี้ แต่ล่าสุดได้ขอเลื่อน และยังไม่ได้กำหนดวัน เวลา สถานที่ เพียงแต่แจ้งว่าจะมีขึ้นเร็วๆนี้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงอยากจะให้ชาวนาได้เข้าไปรับฟังและซักถามด้วยตัวเอง แต่ทางที่ดีที่สุดควรจะมีการถ่ายทอดโทรทัศน์เพื่อจะได้รับทราบกันอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ"

ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าขณะนี้คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคาตลาดอ้างอิง ที่มีนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้กำหนดราคาตลาดอ้างอิงประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2552 เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้นำเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบแล้ว โดยราคาตลาดอ้างอิงที่จะประกาศและมีผลระหว่างวันที่ 1-15 ตุลาคม มีดังนี้คือ ข้าวหอมมะลิตันละ 14,986 บาท ข้าวหอมจังหวัดตันละ 13,899 บาท ข้าวเปลือกเจ้า5% ตันละ 8,806 บาท ข้าวหอมปทุมธานีตันละ 9,896 บาท ข้าวเหนียวตันละ 7,523 บาท

ทั้งนี้คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดราคาตลาดอ้างอิง ประกอบด้วยผู้แทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้แก่ผู้แทนชาวนา โรงสี ผู้ส่งออก กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ โดยราคาตลาดอ้างอิงคำนวณจากราคาข้าวสารเฉลี่ยย้อนหลัง15 วัน บวกราคาผลิตภัณฑ์ย้อนหลัง15 วันหักด้วยค่าสีแปรและหักค่าขนส่ง

แหล่งข่าววงการค้าข้าว วิเคราะห์ว่าราคาตลาดอ้างอิงดังกล่าวถือว่าเป็นราคาที่สูง โดยเฉพาะข้าวเปลือกเจ้า หากชาวนาขายข้าวช่วงนี้และใช้สิทธิ์ประกันรายได้ระหว่างวันที่ 1-15 ตุลาคม ชาวนาจะมีรายได้จากการขายข้าวไม่ถึงตันละ 10,000 บาทตามราคาประกันรายได้ เพราะว่าช่วงเวลานี้โรงสีรับซื้อข้าวเปลือกเจ้าจากเกษตรกรที่ตันละ 7,600-7,700 บาท (ความชื้น 25%) ชาวนาจะมีรายได้จากการขายข้าวที่ตันละ 8,894 บาท (ขายให้โรงสีตันละ 7,700 บาท+ส่วนต่างเงินประกันรายได้กับราคาตลาดอ้างอิง 1,194บาท (10,000-8,806)

"รัฐบาลมีเป้าหมายจะให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพข้าว แต่สำหรับข้าวเปลือกเจ้าพื้นที่ปลูกภาคกลางต้องใช้เวลาในการปรับตัว เนื่องจากชาวนาเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวไม่มีกระบวนการตากแห้ง และชาวนาไม่มีที่เก็บข้าวเกี่ยวเสร็จต้องนำมาขายให้กับโรงสีทันที ข้าวที่นำมาขายจึงมักเป็นข้าวสดและความชื้นสูงจึงถูกกดราคารับซื้อ ขณะที่ราคาประกันของรัฐบาลกำหนดที่ความชื้น15%" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

อย่างไรก็ดีสำหรับชาวนาช่วงเวลาที่จะได้ประโยชน์จากโครงการประกันรายได้มากที่สุดคือขายข้าวในช่วงตลาดปกติราคาสูงแล้วไปใช้สิทธิ์ช่วงที่ราคาตลาดอ้างอิงต่ำ เช่น ขายตลาดปกติตันละ 8,000 บาท ใช้สิทธิ์ประกันรายได้ช่วงที่ราคาตลาดอ้างอิงอยู่ที่ตันละ 8,000 บาท จะได้เงินชดเชยประกันรายได้ที่ตันละ 2,000 บาท เบ็ดเสร็จแล้วจะได้รับตันละ 10,000 บาท เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จรัฐบาลต้องอธิบายให้ชาวนาเข้าใจถึงกลวิธีประกันรายได้ ไม่ใช่ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์รัฐบาลอย่างเดียวว่ารัฐบาลพร้อมจะให้ทุกอย่าง พร้อมจะช่วยเหลือให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดี แต่ไม่แนะนำวิธีการให้เขาติดตามภาวะราคาตลาดและเล่นกับตลาดให้เป็นเพื่อจะได้รับประโยชน์สูงสุด

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.