|
แฉหมอโดดเก็งกำไรข้าวดันราคาพุ่ง
|
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกภายในประเทศและข้าวสารส่งออกว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาข้าวเปลือกภายในประเทศและข้าวสารส่งออกผันผวนอย่างหนัก ราคาปรับเพิ่มขึ้นถึง 20% ถือว่าสูงผิดปกติ โดยข้าวเปลือก 5% ปรับเพิ่มขึ้นถึงตันละ 2,300 บาท คือปรับจากตันละ 8,000 บาท เป็น 10,300 บาท ขณะที่ข้าวสารส่งออกชนิด 5% ปรับเพิ่มขึ้นตันละ 82 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ตันละ 2,760 บาท คือปรับจากตันละ 510 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นตันละ 592 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าข้าวจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้นจากปัญหาวิกฤตอาหารโลก ทำให้มีการเข้ามาแย่งซื้อเก็งกำไรข้าวเปลือกภายในประเทศ เพื่อเก็บสต๊อกไว้ขายในช่วงที่ราคาแพงจำนวนมาก แต่ที่เป็นห่วงคือ การมีบุคคลที่อยู่นอกวงการค้าข้าว เช่น ผู้ประกอบอาชีพแพทย์ หรือทนายความ ที่มีฐานะดีเข้ามาซื้อเก็งกำไรข้าวเปลือกเฉลี่ยรายละประมาณ 100-200 ตัน ประกอบกับเป็นช่วงที่ดอกเบี้ยเงินกู้มีอัตราที่ต่ำ จูงใจให้คนนอกวงการข้าวหันมากู้เงินทำธุรกิจซื้อขายข้าวกันมากขึ้นด้วย
"ขณะนี้ข้าวเปลือกเริ่มขาดแคลนแล้ว หาซื้อยากและมีราคาแพง เป็นปัญหาคล้ายกับช่วงต้นปี"51 เพราะโรงสี พ่อค้าคนกลาง รวมทั้งคนนอกวงการข้าวแห่ซื้อข้าวปั่นราคาเพื่อเก็งกำไร กักตุนไม่ยอมขายหรือหากขายก็จะทยอยขายแบบล็อตเล็กๆ เพราะต้องการกันสต๊อกที่เหลือไว้ต่อรองเรียกราคาให้สูงขึ้นไปอีก ทำให้ผู้ส่งออกต้องเริ่มชะลอการส่งออก และส่งผลให้ไม่กล้ารับออร์เดอร์ เนื่องจากวิตกว่าจะไม่สามารถหาข้าวมาส่งออกได้ ซึ่งอาจกระทบต่อเนื่องไปถึงปีหน้า อาจทำไห้ไทยส่งออกข้าวได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 10 ล้านตัน" นายชูเกียรติกล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรจะเร่งแก้ไขปัญหาการเก็งกำไรอย่างเร่งด่วน เพราะถ้ารัฐบาลยังปล่อยให้ราคาข้าวสูงเกินจริง จะกระทบการส่งออกข้าวของไทย รวมทั้งหากราคาปรับสูงขึ้นมากจนถึงแนวต้านที่ตลาดโลกรับไม่ได้แล้ว จะทำให้ราคาข้าวร่วงลงมาเร็ว และรุนแรงซึ่งจะกระทบมายังราคาภายในประเทศให้ตกต่ำลงอย่างหนัก
ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งระบายข้าวในสต๊อกที่มีสูงถึง 6 ล้านตัน ออกสู่ตลาดเพื่อสกัดการเก็งกำไร โดยอาจไม่ต้องระบายข้าวให้กับผู้ส่งออก แต่อาจระบายให้แก่ผู้ผลิตข้าวสารบรรจุถุงภายในประเทศแทน เพื่อลดความร้อนแรงของราคา รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาประชาชนภายในประเทศ ต้องบริโภคข้าวแพงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ก่อนหน้านี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ระบุว่า แนวทางการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายกระทรวงพาณิชย์ว่าให้ระบายแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ซึ่งระหว่างที่เดินทางไปประชุมองค์การการค้าโลกรอบโดฮา ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อสัปดาห์ก่อน และมีการพบปะกับรัฐมนตรีการค้าจากหลายประเทศซึ่งได้แสดงความสนใจที่จะซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย เช่น อินเดีย ฮ่องกง มาเลเซีย ที่ยังมีความต้องการนำเข้าข้าวอีกจำนวนมาก โดยจะมีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณและราคาที่จะซื้อขายต่อไป
ที่มา ข่าวสด
|
| |
|
|
© Thai Rice Exporters Association
37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678
E-mail : contact@thairiceexporters.or.th
Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.
|
|
|