นายยงยศ ปาละนิติเสนา รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้ชนะประมูลข้าวรัฐ 14 ราย เพื่อขอให้ผู้ชนะประมูลยกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับ อคส. ตามนโยบายรัฐบาลให้ยกเลิกการขายข้าวดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ว่า ผู้ชนะประมูลทุกรายยอมตกลงยกเลิกสัญญา โดย อคส.จะคืนหนังสือค้ำประกันค่าข้าวในอัตรา 5% ของมูลค่า ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ส่วนบริษัทที่ชำระค่าข้าวบางส่วนแต่ยังไม่มีการรับมอบข้าวหรือบางรายที่มีการขนข้าวแล้วบางส่วนให้รับเงินคืนได้ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2552 คิดเป็นวงเงินประมาณ 2,400 ล้านบาท จากมูลค่าการประมูล 2.7 หมื่นล้านบาท ส่วนข้าวที่ขนออกไปแล้วก็เป็นสิทธิของคู่สัญญา

"ผู้ส่งออกจะทำหนังสือพร้อมหลักฐานที่เกิดความเสียหายจากการยกเลิกสัญญาครั้งนี้ เพื่อขอให้รัฐพิจารณาช่วยเหลือ หรือสิทธิพิเศษสำหรับการประมูลครั้งต่อไป บางรายเสนอว่าครั้งนี้เขาประมูลได้หมื่นตันถูกยกเลิก หากคราวหน้าประมูลอีกก็ขอเพิ่มการพิจารณาเป็น 2 หมื่นตัน ซึ่งเรื่องนี้จะสรุปและรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ต่อไป" นายยงยศกล่าว

นายวิชัย ศรีนวกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงสีข้าวเจริญผล จำกัด กล่าวว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลควรมีการวางหลักเกณฑ์และผู้มีอำนาจให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายอีก โดยภาคเอกชนได้เสนอต่อที่ประชุมว่าหากจะเปิดประมูลต่อไป ควรมีปริมาณต่อเดือนไม่เกิน 3-5 แสนตัน เพื่อลดความผันผวนของราคา

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์สินค้าเกษตรกร กล่าวว่า ในวันที่ 10 กรกฎาคม จะประชุมร่วมกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แห่งชาติ เพื่อรายงานผลการตรวจสอบสต๊อคข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามโครงการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2551/52

ทั้งนี้ จากการออกตรวจสอบในช่วงวันที่ 3-7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในโกดัง 17 แห่งที่จังหวัดตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ เชียงราย พะเยา และน่าน ที่ฝากเก็บในโกดังเอกชนทั้งสิ้นกว่า 200 โกดัง พบว่าข้าวโพดส่วนใหญ่เสียหาย เนื่องจากการเก็บรักษาไม่ดี มีการเทกองไว้บนพื้นปูนซีเมนต์ บางโกดังโดนฝนจนเปียกชื้น และไม่ได้พลิกกอง จนเกิดเชื้อรา หรือบางโกดังเมล็ดลีบ ประเมินความเสียหายน่าจะมีถึงครึ่งหนึ่ง และจากการสอบถามเจ้าของโกดังส่วนใหญ่ระบุว่าการเก็บไม่ควรเกิน 3 เดือนจากวันที่รับจำนำ แต่เมื่อมีการสั่งยกเลิกการระบาย เมื่อคิดระยะเวลาจากเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคม 2552 เป็นเวลาถึง 5-6 เดือน ยอมมีปัญหาการเสื่อมสภาพสูง

นางสาวชุติมากล่าวว่า หากให้เปิดประมูลรอบใหม่จะต้องให้บริษัทตรวจสอบคุณภาพอีกครั้ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคมหรือไม่ โดยประมูลควรเป็นการส่งออกเพราะขายในประเทศราคาจะตกลงมาก เพราะผลผลิตใหม่กำลังออกสู่ตลาด และบางโกดังเสียหายมาก อาจไม่มีใครประมูลซื้อ ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวโพดเหลือ กก.ละ 4 บาท ต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์เปิดประมูลอยู่ที่ กก.ละ 7 บาท จากต้นทุนรับจำนำ 8.50 บาท

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เปิดประมูลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสต๊อครัฐบาลประมาณ 450,000 ตัน เพื่อส่งออก ซึ่งมีผู้ชนะการประมูล 3 ราย โดยขายที่ กก.ละ 3.50-7.00 บาท หรือเฉลี่ย กก.ละ 4.70 บาท จากราคารับจำนำ กก.ละ 8.50 บาท แต่รัฐบาลสั่งให้ชะลอการขายออกไปก่อน จนทำให้ผู้ชนะการประมูลต้องยกเลิกการซื้อในที่สุด

ที่มา มติชน