นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม กรณีสมาคมชาวนาไทยและกลุ่มชาวนาในหลายพื้นที่เสนอให้รัฐบาลขยายเวลาการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2552 ที่ผลผลิตยังออกสู่ตลาดอีก 2 ล้านตัน ในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2552 ไปอีก 30 วันหลังสิ้นสุดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และประกาศจะปิดถนนและเดินทางเข้ามาประท้วงในกรุงเทพฯ ว่าจะเร่งรัดนำเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือและแก้ปัญหาข้าวราคาตกต่ำ ซึ่งได้รายงานถึงความเดือดร้อนของชาวนาและเห็นใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายให้ดูแลในเรื่องเสถียรภาพของราคาผ่านมาตรการเพิ่มต่างๆ หากจะอนุมัติให้ขยายเวลารับจำนำต้องผ่านการอนุมัติจาก กขช.ก่อน

"ในการประชุม กขช.กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้ขยายเวลารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังออกไปก่อนแต่อาจต้องทบทวนราคาใหม่ให้ลดลงเพราะสถานการณ์ราคาข้าวเริ่มอ่อนตัวลง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ผ่อนปรนปัญหาช่วงสุญญากาศก่อนใช้ประกันราคาสำหรับข้าวเปลือกนาปี 2552/2553 ที่จะออกสู่ตลาดในอีก 3 เดือนข้างหน้า ได้รับรายงานว่าอาจมีความวุ่นวายถึงขั้นปิดถนนได้หากยังปล่อยให้ชาวนาเห็นว่ารัฐไม่เร่งแก้ไข" นางพรทิวากล่าว

แหล่งข่าวในวงการค้าข้าวกล่าวว่า ในช่วงสุญญากาศก่อนที่รัฐบาลจะประกาศหลักเกณฑ์การประกันราคาข้าวและราคารับประกันข้าวเปลือกนาปี ผลผลิตปี 2552/2553 ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดปลายเดือนตุลาคมนี้ ตลาดค้าข้าวจะมีความปั่นป่วนและก่อให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในประเทศได้ หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมราคาข้าวที่ตกลงได้ และวงการกำลังจับตามีขบวนการเก็งกำไรส่วนต่างจากโครงการประกันราคาข้าวแทนการรับจำนำ ตันละ 1,000-2,000 บาท จากราคาที่รัฐบาลจะประกาศประกันราคา โดยเสนอซื้อข้าวทะเบียนชาวนาในราคาต่ำ เพราะชาวนาส่วนใหญ่ประสบปัญหาในเรื่องการมียุ้งฉางเก็บข้าวของตนเอง และยังต้องอาศัยโรงสีในการจัดเก็บข้าว

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบว่ามีต่างชาติเข้ามากว้านซื้อเช่าที่ดินขนาดใหญ่ในประเทศไทย เพื่อทำการเกษตร ในพื้นที่ 20 จังหวัด หรือไม่นั้น ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบแล้ว ไม่พบพฤติกรรมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังร่วมกันต่อไป ขณะเดียวกันจะมีการประสานขอความร่วมมือจากเกษตรกร สมาคมชาวนาไทยให้ช่วยติดตามดูพฤติกรรมเหล่านี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อตรวจสอบดูว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาถือหุ้นเกินว่าที่กฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวปี 2542 (นอมินี) หรือไม่ โดยเฉพาะเข้ากว้านซื้อและเช่าที่ดินไปทำการเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยเท่านั้น โดยจะตรวจสอบ 2 ส่วน คือ การจดทะเบียนการค้าดำเนินธุรกิจ และการร่วมทุนของกิจการที่มาร่วมทุนในไทย พร้อมทั้งจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายอลงกรณ์กล่าวว่า จะหารือกับนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย โดยยืนยันว่าหลังจากนี้ รัฐบาลจะเร่งตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามพฤติกรรมดังกล่าวอย่างเข้มงวด

ที่มา มติชน