นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่รัฐบาลจะเริ่มโครงการประกันราคาข้าววันที่ 1 ตุลาคม 2552-กุมภาพันธ์ 2553 ทันทีที่เริ่มเกษตรกรจะต้องประสบปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำอย่างแน่นอน เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวนาปี 2552/53 จะออกสู่ตลาดพร้อมกันเป็นจำนวนมากถึง 23 ล้านตัน และประกันราคาไม่มีการดึงซัพพลายข้าวออกจากท้องตลาด ปล่อยให้เกษตรกรขายตามภาวะราคาตลาดมีส่วนต่างเท่าใดรัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรได้รับเท่ากับราคาประกัน

"ปริมาณข้าวเปลือกที่ออกมาจำนวนมากๆ ในเวลาเดียวกัน เป็นโอกาสของผู้ซื้อที่จะกดราคารับซื้อลงเท่าใดก็ได้เพราะสินค้าออกมาจำนวนมาก ยิ่งเกษตรกรไม่มีที่เก็บข้าวเปลือกไว้เองปล่อยออกสู่ตลาดหมดยิ่งจะส่งผลให้ผู้ซื้อคือโรงสีกดราคาซื้อลง ยิ่งโรงสีที่มีสถานที่เก็บมากๆ จะยิ่งสามารถตุนข้าวเปลือกราคาถูกไว้เก็งกำไร ปัจจุบันโรงสีมีกำลังผลิตมากกว่าผลผลิตข้าวเปลือกถึง3 เท่า นับเป็นโอกาสของโรงสีเพราะที่ผ่านมาไม่สามารถซื้อแข่งกับรัฐบาลที่จำนำราคาสูงได้ การเปลี่ยนจำนำเป็นประกันราคาจึงไม่ต่างจากการป้อนเนื้อเข้าปากโรงสี"นายชาญชัยกล่าวและว่า

รัฐบาลยังไม่มีความพร้อมใดๆ เกี่ยวกับการรับประกันราคาข้าวเปลือกให้กับเกษตรกร ยิ่งการขึ้นทะเบียนเกษตรกรยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งที่โครงการจะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม ศกนี้แล้ว หากตัวเลขการขึ้นทะเบียนเกษตรกรมีมากกว่าเกษตรกรตัวจริงรัฐจะทำอย่างไร มีความเป็นห่วงว่างบประมาณที่รัฐบาลจะจ่ายโครงการประกันราคาจะบานปลายจากที่กำหนดชดเชยส่วนต่างให้ตันละ 1,000 บาท หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 25,000 ล้านบาท วงเงินจำนวนดังกล่าวไม่น่าจะเพียงพอ

นายชาญชัยกล่าวว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องเตรียมมาตรการจำนำไว้เสริม เพื่อดึงซัพพลายข้าวเปลือกออกจากท้องตลาด ถ้าหากจะให้โรงสีช่วยรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรราคาสูงเช่นตันละ 9,000 บาท แล้วให้เกษตรกรรับเงินชดเชยจากรัฐอีกตันละ 1,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรได้ราคาข้าวขั้นต่ำตันละ 10,000 บาทนั้น รัฐบาลจะต้องมีเกณฑ์ราคารับซื้อข้าวสารจากโรงสีด้วย และจะต้องหาตลาดรัฐบาลต่อรัฐบาลหรือจีทูจีรองรับ

"ขณะนี้ผู้ซื้อเริ่มชะลอสั่งซื้อเพราะรอดูทิศทางราคาข้าวไทยน่าจะอ่อนตัวลง เพราะระบบประกันราคาเป็นโอกาสของผู้ซื้อที่จะซื้อของราคาถูก โรงสีจ้องซื้อข้าวจากเกษตรกรราคาถูกเพราะรู้อยู่แล้วว่ารัฐบาลเป็นคนจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกร ผู้ซื้อต่างประเทศเขาเห็นทิศทางอย่างนั้นจึงชะลอสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากราคาข้าวที่ผู้ส่งออกซื้อจากโรงสีอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องข้าวขาว 5% จากกระสอบละ 1,700 บาท ลงเหลือกระสอบละ 1,600 บาท ในช่วงเวลาสัปดาห์เดียว หากผู้ส่งออกและโรงสีลดราคาซื้อลงอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายราคาข้าวไทยจะลดลงอยู่ในระดับเดียวกับข้าวเวียดนาม ทั้งที่ข้าวไทยคุณภาพดีกว่าและเป็นไปไม่ได้ที่ราคาจะลงมาอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ระบบประกันราคากำลังจะทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นมา"

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ