น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้นำคณะเดินทางไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อติดตามและตรวจ สอบคุณภาพของข้าวหอมมะลิไทยระหว่างวันที่ 12-15 ส.ค.นี้ หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าข้าวหอมมะลิไทยมีปัญหาด้านคุณภาพ และมีปัญหาการละเมิดหรือลอกเลียนแบบเครื่องหมายรับรองข้าวหอม มะลิ ทำให้ชื่อเสียงเสียหาย
กรมมีกำหนดเข้าพบหารือกับหน่วยงานของจีนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา รวมทั้งจะเข้าเยี่ยมชมการนำเข้าข้าวหอมมะลิไทย ณ จุดขนถ่ายสินค้า และสถานที่จำหน่าย
ขณะเดียวกัน จะจัดซื้อตัวอย่างสินค้าข้าวหอมมะลิไทยในห้างสรรพสินค้า เพื่อนำกลับมาตรวจสอบวิเคราะห์คุณภาพทางกายภาพ โดยวิธีการตรวจสอบเอกลักษณ์ทางพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) และตรวจสอบการใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยที่ประทับบนภาชนะ หรือถุงบรรจุที่จัดจำหน่ายว่าถูกต้องตามข้อกำหนดหรือมีการลอกเลียนแบบละเมิดเครื่องหมายรับรองหรือไม่
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูกาลผลิตปี 2552/2553 จะมีราคาไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อตัน เนื่องจากการจำหน่ายน้ำตาลทรายที่บริหารโดยบริษัท อ้อยและน้ำตาลทราย (อนท.) ได้ขายออกไปแล้ว 70% ราคาเฉลี่ย 18.60 เซนต์ต่อปอนด์ ที่เหลือ 30% คาดว่าจะได้ราคาไม่ต่ำกว่า 20 เซนต์ต่อปอนด์
ดังนั้น ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยจะ อยู่ราว 19 เซนต์ต่อปอนด์ ขณะที่ค่าเงินบาทอยู่ระดับ 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นระดับที่ อ่อนค่าลงมาเล็กน้อยกว่าที่คาดไว้จะเป็นผลดีต่อการคำนวณราคาอ้อยเพิ่มอีก
ปัจจุบันราคาน้ำตาลในตลาดโลกปีนี้ดีที่สุดรอบ 28 ปี ล่าสุดราคาตลาดโลกส่งมอบล่วงหน้าเดือนมี.ค. 2553 อยู่ที่ 23 เซนต์ต่อปอนด์ น้ำตาลทรายขาว 533 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องจากตลาดโลกขาดแคลน เพราะอินเดียและจีนผลผลิตตกต่ำจากภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมต้องนำเข้าเพิ่ม
ขณะที่บราซิลนำไปผลิตเอทานอลแทน เพราะน้ำมันแพงส่งผลให้คิดเป็นราคาน้ำตาลทรายรวมค่าขนส่งและค่าบริหารแล้วอยู่ที่ 19 บาทต่อกิโลกรัม ใกล้เคียงกับราคาในประเทศ
ที่มา โพสต์ทูเดย์ |