นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า กระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงญี่ปุ่นตรวจสอบข้าวที่ นำเข้าจากไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2551 จำนวน 3,508 ตัน ที่จำหน่ายให้แก่ผู้ผลิตอาหารแปรรูปในญี่ปุ่นหลายราย หลังจาก ผู้ผลิตอาหารแปรรูปรายหนึ่งซื้อปลายข้าวจำนวน 24 ตัน ได้ตรวจพบก้อนข้าวชิ้น เล็ก ขนาดเท่าเมล็ดเกาลัดปริมาณ 180 กรัมในถุงข้าวขนาด 1 ตัน (jumbo bag) ซึ่ง ผลการตรวจสอบพบสาร aflatoxin B1 ในสัดส่วน 0.04 ppm. สูงกว่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 0.01 ppm. ส่วนข้าวที่เหลือทั้งหมดไม่ปรากฏสารปนเปื้อนแต่อย่างใด ซึ่งในกรณีนี้ทางผู้ส่งออกข้าวไทยได้ชี้แจงว่าอาจจะเป็นความผิดพลาดจากการขนย้ายข้าวระหว่างทาง

โดยขณะนี้ทางญี่ปุ่นได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ มาตรวจสอบกรณีดังกล่าวจริง โดยทางกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งเตือนผู้ส่งออกให้เฝ้าระวัง และชี้แจง ไปที่กระทรวงเกษตรฯของญี่ปุ่นแล้ว โดยจะตรวจสอบตั้งแต่ขั้นตอนข้าวเปลือกจาก โรงสี ประวัติเรือ และการรับมอบข้าวของญี่ปุ่น รวมถึงการกระจายสินค้าภายใน ญี่ปุ่นด้วย

"เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมูลข้าวของญี่ปุ่นในวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เพราะคุณสมบัติที่กำหนดตรงกับเฉพาะปลายข้าวเอวัน ซึ่งมีปริมาณ 300-400 ตันเท่านั้น จากปริมาณการเปิดประมูลทั้งหมด 25,000 ตัน ซึ่งคาดว่าที่เหลืออาจจะเป็นสหรัฐที่ชนะการประมูล อย่างไรก็ตาม ด้านคุณภาพข้าวนี้ทางผู้ส่งออกได้เพิ่มความระมัดระวังอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาข้าวไทยไม่เคยมีปัญหา เราจึงชี้แจงว่าเป็นความ ผิดพลาดระหว่างการขนส่งซึ่งอาจจะมีความชื้นมากกว่าปกติ แต่ที่จะต้องระวัง คือ ปีนี้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นทั่วโลกซึ่งอาจ จะนำ ไปสู่การใช้มาตรการทางการค้าเช่นนี้" นายชูเกียรติกล่าว

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยว่า การพบสาร aflatoxin B1 ทางผู้ส่งออกไทยเชื่อว่า จะเป็นข้ออ้างในการใช้มาตรการ ที่มิใช่ภาษี (NTB) กับสินค้าข้าว และเกรงว่าจะเป็นสาเหตุทำให้ญี่ปุ่นลดการนำเข้า ข้าวไทย และหันไปนำเข้าข้าวจากสหรัฐแทน เพราะสหรัฐเป็นคู่แข่งสำคัญของไทย

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ