นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังหารือร่วมกับนายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย นายปราโมทย์ วานิชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทยและกรรมการสมาคมโรงสีข้าว ถึงโครงการประกันราคาข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/2553 โดยขอความร่วมมือโรงสีให้รับซื้อข้าวจากเกษตรกรตามราคาประกาศ พร้อมสั่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่อโรงสี

อย่างไรก็ตาม สมาคมโรงสีกังวลเกี่ยวกับการส่งออกข้าว จึงต้องการให้รัฐบาลเข้ามารับซื้อข้าวจากโรงสี ขายต่างประเทศแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในส่วนจีทูจี รัฐบาลพร้อมดำเนินการ ส่วนโครงการประกันราคาข้าวเปลือกนาปีปีนี้ คาดรัฐบาลอาจต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกร 3-5 หมื่นล้านบาท โดยกันเงินจากพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท มาใช้จ่ายส่วนต่างประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะพิจารณาหาจากแหล่งอื่นๆ

สำหรับมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก รัฐบาลจะทยอยออกมาตรการมา โดยเฉพาะช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวออกในปริมาณที่มาก ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างปรับปรุงมาตรการ ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ส่วนการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ตนได้เร่งให้ขึ้นทะเบียนให้เสร็จภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ โดยจัดสรรงบ 50 ล้านบาท เพื่อทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบโครงการประกันราคาข้าวเปลือก พร้อมให้ส.ส.และส.ว.ในแต่ละพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์

ด้านนายชาญชัย กล่าวว่าได้เสนอให้ออกมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว โดยให้รัฐบาลรับซื้อข้าวจากโรงสีเพื่อส่งออกแบบจีทูจี ขณะนี้ต้องยอมรับว่าตลาดข้าวอยู่ในมือผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อข้าวส่งออกต่างประเทศ 30 รายแรก มีสัดส่วนการส่งออกข้าวถึง 90% "ผมอยากให้รัฐบาลช่วยเจรจากับผู้ส่งออกข้าวให้เร่งชำระค่าข้าวให้ได้ภายใน 10-20 วันจากเดิมที่กำหนดชำระ 30-90 วัน แนวทางนี้ทำให้โรงสีมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะมารับซื้อข้าวจากเกษตรกร นอกเหนือจากที่ ธ.ก.ส.ปล่อยกู้" นายชาญชัยกล่าว

หากรักษาเสถียรภาพราคาข้าวไม่ดีพอ รัฐบาลอาจต้องขาดทุนจากการชดเชยส่วนต่างมาก เมื่อผลผลิตข้าวออกมามั่นใจได้เลยว่าเกษตรกรจะขายข้าวทุกราคาไม่ว่าราคาในตลาดจะเป็นเท่าไร "เพราะรัฐบาลเป็นเจ้ามือในการรับประกันราคาข้าวให้เกษตรกรทั้งหมด ผมได้เสนอแนวทางเกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ เช่น หากเกษตรกรเก็บข้าวไว้ 1 เดือน เพิ่มเงินประกันให้ 300 บาทต่อตัน หากเก็บข้าวไว้ 6 เดือน ก็จะได้ 15,300 บาทต่อตัน เป็น 17,100 บาทต่อตัน ซึ่งราคาข้าวหอมมะลิอยู่ในระดับที่สูง รับภาระชดเชยไม่สูง" นายชาญชัย กล่าว

นายชาญชัย กล่าวว่าปัญหาเกี่ยวกับโครงการประกันราคาข้าวเปลือก ที่ตนเป็นห่วงและเกรงว่าจะทำให้รัฐต้องชดเชยส่วนต่างจำนวนมโหฬาร เนื่องจากขณะนี้มีการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวแล้วเพียง 30% แต่เหลือเวลาขึ้นทะเบียนอีกไม่เกินครึ่งเดือน ทำให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องเร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรอย่างรีบเร่งและไม่มีการตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งนำไปสู่การแจ้งเท็จและสวมสิทธิเกษตรกรได้ ตนจึงเสนอให้รัฐบาลเริ่มโครงการประกันข้าวเปลือกเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน จากนั้นค่อยทยอยไปยังภาคอื่นๆ

ส่วนราคาในตลาดโลกอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดแล้ว โดยข้าวขาว 5% ในตลาดโลกอยู่ที่ 500 ดอลลาร์ต่อตัน หรือตันละ 9,000-9,500 บาท หรือเป็นราคาที่รัฐบาลต้องชดเชยส่วนต่างประมาณ 1,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวหอมมะลิราคาอยู่ที่ 900 ดอลลาร์ต่อตัน หรือตันละ 1.6 หมื่นบาท

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ