นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 มกราคมนี้ จะเข้าแสดงความยินดีกับนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และจะถือโอกาสขอหารือถึงกรณีมีการลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศกัมพูชาและสวมสิทธ์ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 ที่กำลังดำเนินการขณะนี้ เพื่อทำกำไรส่วนต่างได้เกวียนละ 3,000-4,000 บาท โดยข้าวเพาะปลูกในกัมพูชามีราคาเกวียนละ 8,000 บาท บางรายอาจบวกค่าขนย้ายและค่าผ่านทางอีกตันละ 1,000 บาท แต่เมื่อนำมาเข้าโครงการรับจำนำจะขายได้ตันละ 12,000 บาท

?อยากให้กระทรวงพาณิชย์เข้มงวดการขนย้ายและการค้าตามแนวชายแดน เพราะได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกของสมาคมฯว่ามีขบวนการลักลอบนำเข้าข้าวกัมพูชาเข้ามาสวมสิทธ์ โดยมีการขนย้ายถึงวันละพันตัน ทั้งนี้พบเจอมากที่สุดในภาคอีสาน แต่กำลังขยายเข้ามาในพื้นที่ภาคกลางแล้ว หากปล่อยให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นอาจกระทบเหมือนการรับจำนำข้าวโพดที่มีการลักลอบและสวมสิทธ์การรับจำนำ ในระยะยาวหากข้าวมีปริมาณสูงอาจกระทบต่อภาพพจน์ชื่อเสียงของข้าวไทย เพราะคุณภาพข้าวก็แตกต่างกัน?

นายชูเกียรติ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลสถานการณ์ข้าวเปลือกขาดแคลนในท้องตลาดด้วย ซึ่งกระทบต่อการผลิตและส่งออกข้าวนึ่งที่ต้องใช้ข้าวเปลือก โดยมีการตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นเพราะมีการนำข้าวเปลือกเข้าโครงการรับจำนำทั้งหมดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบตัวเลขข้าวเปลือกเข้าโครงการพบว่ามีเพียง 3 ล้านตัน ก็ไม่มากนัก จึงเชื่อว่าน่าจะมีการจำนำในยุ้งฉางมากกว่าเพราะได้เงินจำนำเพิ่มอีกตันละ 1,000 บาท

นายชูเกียรติ กล่าวว่า นอกจากนี้ จะขอหารือกับรัฐมนตรีฯถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวและราคาส่งออกข้าวไทยที่กำลังเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนาม เพราะราคาส่งออกข้าวขาวไทยสูงกว่าเวียดนาม 180-200 เหรียญสหรัฐ/ตัน และการที่ข้าวเปลือกขาดแคลนทำให้ราคาข้าวในตลาดเพิ่มขึ้นมาก

นายชูเกียรติ กล่าวว่า จากสถิติการส่งออกข้าวในช่วงวันที่ 1-8 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าค่อนข้างต่ำและปริมาณหายไปถึง 62% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2551 ไทยส่งออกข้าวได้ 250,000 ตัน เหลือเพียง 76,000 ตัน ซึ่งอาจเป็นเดือนแรกของปีที่ส่งออกได้ต่ำกว่าเฉลี่ยปีก่อนที่ส่งออก 600,000 ตัน/เดือน แต่ราคายังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 200-250 เหรียญสหรัฐฯ เพราะราคาข้าวในประเทศสูง สำหรับแนวคิดซื้อข้าวในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อคุมราคาและสต๊อกข้าวของโลก ก็กำลังศึกษาว่าจะมีผลดีอย่างไร แต่ก็ยังกังวลในเรื่องการทุจริตจากการปลอมปนข้าว อาจเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า

ที่มา มติชน