แหล่งข่าวจากวงการข้าว เปิดเผยว่า มีกระแสข่าวว่าเอกชนผู้ค้าข้าวได้รับแจ้งจากกระทรวงพาณิชย์ว่าจะมีการอนุมัติระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออีก 1.6 ล้านตัน กำหนดเงื่อนไขและเปิดให้เสนอราคาสัปดาห์หน้า

กรณีนี้มีการตั้งข้อสังเกตใน วงการข้าวว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมจะระบายข้าวในปริมาณมาก เพราะจะทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำ อีกทั้งผู้ส่งออกที่ชนะการประมูลข้าว 2.7 ล้านตันก่อนหน้านี้ ยังรับมอบไม่แล้วเสร็จ

ด้านนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะระบายข้าวในสต๊อก เพราะต้องหารือในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ครั้งแรกวันที่ 19 ก.พ.นี้ก่อน รวมถึงหารือถึงการบริหารจัดการข้าวทั้งระบบเพื่อประเมินสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมในการเปิดโครงการรับจำนำข้าวนาปรังฤดูผลิต ปี 2552

นายประพล มิลินทจินดา เลขานุการรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ยังไม่มีนโยบายระบายข้าวช่วงนี้จนกว่าการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) จะเสร็จสิ้นก่อน ซึ่งนโยบายระบายข้าวหลังจากนี้จะเน้นวิธีรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ขณะนี้หลายประเทศต้องการซื้อแบบจีทูจีถึง 1 ล้านตัน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า วันที่ 15-17 ก.พ.นี้ จะนำคณะเอกชนไปประเทศเวียดนาม เพื่อหารือความร่วมมือกำหนดยุทธศาสตร์ราคาข้าวขั้นต่ำ เบื้องต้นมองไว้ที่ 700 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งจะใช้เป็นราคาอ้างอิงราคาข้าวในตลาดโลก หากทำสำเร็จราคาข้าวเปลือกในประเทศจะปรับสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาทต่อตัน

ที่มา โพสทูเดย์