www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ลือทั่ววงการเด้งฟ้าผ่าอธิบดีคต. ขวางระบายข้าวพ่อค้าวิ่งหาใบ B/L สวมข้าวส่งออก


แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมาได้สั่งย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ 3 ตำแหน่ง คือ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ไปเป็นรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแทน โดยมีการตั้งข้อสังเกตในการสั่งย้ายว่า อาจเกิดจากข้าราชการไม่ตอบสนองนโยบาย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการระบายข้าว ไม่ใช่เรื่องของการปรับตัวบุคคลให้เหมาะสมกับงานตามที่นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แจ้งในที่ประชุม ครม.

ก่อนที่จะมีการสั่งย้ายข้าราชการ มีข่าวในวงการค้าข้าวว่า ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) ได้เรียกกลุ่มผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ 4-5 ราย ที่เคยชนะการประมูลข้าวจากรัฐบาลเข้าไปหารือในประเด็นที่รัฐบาลเตรียมระบาย สต๊อกข้าวสารซึ่งมีอยู่ประมาณ 4-5 ล้านตัน ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากสมัยนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/ 2552 ปริมาณ 5,291,966 ตันข้าวเปลือก หรือคิดเป็นข้าวสาร 4 ล้านตัน ซึ่งประเด็นนี้ไม่ใช่ภาระการรับผิดชอบของประธานบอร์ด อคส.

"โดยปกติแล้วต้องเป็นอำนาจของอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มีหน้าที่เป็นเลขาคณะอนุกรรมการด้านการตลาดข้าว ภายใต้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ โดยตำแหน่ง ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงที่ผ่านมากรมการค้าต่างประเทศ มักจะเสนอความเห็นว่า ไม่ใช่จังหวะเหมาะที่จะระบายข้าว ควรเก็บสต๊อกไว้ก่อน แต่ทางการเมืองจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวเพื่อระดมทุน"

ผลจากการเรียกผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เข้าหารือถือเป็นการส่งสัญญาณสำคัญ ทำให้ผู้ส่งออกที่ประมูลข้าวได้ในลอตก่อนหน้านี้จำเป็นต้องเร่งรับมอบข้าวให้เสร็จ ทันกำหนดในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ขณะนี้บางรายยังรับมอบข้าวไม่ถึง 50% เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ยอดคำสั่งซื้อของต่างประเทศชะลอตัวลงอย่างมาก ประกอบกับราคาข้าวในตลาดโลกที่ลดต่ำลง ผู้ส่งออกจึงต้องการเข้าร่วมประมูลข้าวของรัฐบาลต้นทุนต่ำ

อย่างคราวก่อนซื้อกันตันละ 13,000-14,000 บาทต่อตัน หากขายได้ 18,000-19,000 บาทก็ยังได้กำไร ทำให้ผู้ส่งออกกลุ่มนี้เร่งกว้านซื้อหนังสือรับรองการส่งออก หรือ B/L โดยให้ราคาสูงถึงตันละ 200-300 บาท เพื่อเอามาแสดงต่อองค์การคลังสินค้าว่ารับมอบข้าวไปส่งออกแล้ว แต่ความจริงยังไม่มีการส่งออก เพราะไม่มีออร์เดอร์

แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ หากผู้ส่งออกระบายข้าวจำนวนนี้

ออกต่างประเทศไม่ได้ ข้าวอาจจะกลับมาเข้าโครงการรับจำนำ เพราะสถานการณ์ในขณะนี้มีข่าวว่าอินเดียจะส่งออก ทำให้ข้าวนึ่งซึ่งเป็นข้าวชนิดเดียวที่มีการซื้อขาย

หยุดชะงักทันที ราคาส่งออกหายไป 30-40 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากเคยสูงถึง 600 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพราะผู้ซื้อหวังจะซื้อข้าวนึ่งอินเดียที่มีราคา 450 เหรียญสหรัฐต่อตัน ต่ำกว่าข้าวไทยซึ่งมีราคา 500-570 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตลาดข้าวขาวก็ไม่ต่างกัน เพราะผู้ซื้อข้าวขาว เช่น ไนจีเรีย แอฟริกา หรือเบนิน มีข้าวรวม 2 ล้านตันแล้ว หากปีนี้จะซื้อเพิ่มก็คงประมาณ 1 ล้านตัน

"ผลที่เกิดขึ้นคือการส่งสัญญาณของรัฐบาลว่าจะระบายข้าว เป็นการทุบราคาข้าวตลาดในประเทศไปโดยอัตโนมัติ เพราะผู้ส่งออกหยุดการซื้อข้าวจากโรงสีทันที ทำให้ราคาข้าวในประเทศลดลงอย่างมาก โดยขณะนี้ราคาข้าวสารขาวลดลง ตันละ 1,000-1,200 บาท ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ ขณะที่ข้าวเปลือกลดลงตันละ 500-600 บาท ทำให้ราคาข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 16,000 บาท จากเดิมเคยอยู่ที่ 17,000-17,300 บาท ราคาข้าวขาว 100% อยู่ที่ตันละ 17,000 บาท จากเดิมที่จะอยู่ที่ 18,000-19,300 บาท มีเพียงข้าวหอมมะลิที่ราคาทรงตัวอยู่ที่ 27,000-28,000 บาท ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปริมาณข้าวหอมมะลิลดลง และไม่มีการผลิตในช่วงนาปรัง"

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวตั้งข้อสังเกตว่า ข้าวที่เหลืออยู่ในสต๊อก 4-5 ล้านตัน หากระบายโดยเร็ว รัฐบาลอาจจะขาดทุนจากราคาตลาดในช่วงนี้ เพราะราคาจำนำข้าวเปลือกประมาณตันละ 14,000 บาท ต่ำกว่าราคาตลาดข้าว 5% ที่ 16,000 บาท หรือราคาตลาดข้าว 100% ที่ 17,000 บาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นอีกไม่ต่ำกว่าตันละ 1,000 เท่ากับว่า หากรัฐบาลระบายข้าวในช่วงนี้จะขาดทุนแน่นอน ผู้ที่ได้ประโยชน์กลับจะไม่ใช่รัฐ เป็นคนบางกลุ่มที่ต้องการฉวยโอกาสขายข้าวครั้งนี้

หากนางพรทิวาจะอ้างสาเหตุการเร่งประมูลว่า ต้องการเคลียร์สต๊อกสำหรับรอการรับจำนำข้าวนาปรังก็คงไม่มีน้ำหนักเช่นกัน เพราะถึงให้เร่งรับมอบข้าวอย่างไร ก็ใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือนกว่าจะขนข้าวหมด เท่ากับว่าการเตรียมโกดังไม่ทันฤดูกาลจำนำข้าวนาปรังอยู่ดี

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.