นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก.สำรวจพบว่า ปัจจุบันตลาดกลางข้าวยกเลิกกิจการจำนวนมาก สาเหตุมาจากนโยบายรับจำนำข้าวรัฐ ที่ระบุให้โรงสีเป็นผู้ออกใบประทวนและแปรรูปข้าวได้ แต่ไม่ยินยอมให้ตลาดกลางเป็นผู้ดำเนินการ ประกอบกับรัฐบาลประกาศราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดมาก ทำให้เกษตรกรหันไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาล แทนการนำมาขายผ่านตลาดกลางการค้าข้าว ตามกลไกการตลาด
นอกจากนี้พฤติกรรมการเพาะปลูกของชาวนาเปลี่ยนไป โดยนิยมปลูกข้าวอายุสั้นมากขึ้น เพื่อขายเข้าโครงการรับจำนำเพียงอย่างเดียว ไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพ ดังนั้น เพื่อแก้ไขในภาพรวม รัฐบาลต้องหันมาทบทวนโครงการรับจำนำ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพข้าวให้มากขึ้น
“ตลาดกลางข้าวเป็นระบบที่ดีที่สุด เกษตรกรสามารถนำข้าวมาประมูลขายได้ ในขณะที่ผู้ส่งออกสามารถมากว้านซื้อได้ เป็นตัวเชื่อมระหว่างเกษตรกรกับโรงสีที่เสนอราคาดีที่สุด แต่ทุกวันนี้ตลาดกลางหายไป เกษตรกรขายให้โรงสีโดยตรง ทำให้ถูกเอารัดเอาเปรียบหลายอย่าง ทั้งราคาและการคำนวณน้ำหนัก ดังนั้นตลาดกลางต้องได้รับการฟื้นฟูขึ้นมา“ นายอภิชาต กล่าว
นายอภิชาต กล่าวด้วยว่า การส่งออกข้าวในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 2552ปริมาณ 3,474,545 ตัน มูลค่า 67,310.2 ล้านบาท ลดลง 17.32% เนื่องจากผู้นำเข้าข้าวในหลายประเทศ ชะลอการนำเข้าในช่วงปี 2552 ประกอบปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้การส่งออกข้าวของไทยลดลงตามไปด้วย โดยแนวโน้มการนำเข้าข้าวของอาเซียน คาดว่าจะมีประมาณ 2.61 ล้านตัน ลดลง 32% จากการเพิ่มผลผลิตของ พม่า ลาว อินโดนีเซีย เป็นต้น
"รัฐบาลต้องเร่งพิจารณาทบทวนและวางแผนการปลูกและส่งออกข้าวในปี 2553 ใหม่ทั้งหมด โดยคาว่าผลผลิตข้าวจะเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสต็อกข้าว ที่จะมีมากเช่นกัน ส่งผลให้ราคาข้าวตกต่ำกว่าปีนี้ การแข่งขันตลาดส่งออกจะรุนแรงมากขึ้น หากสภาพเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว อัตราการบริโภคจะชะลอตัวต่อไปอีก ซึ่งรัฐต้องเร่งระบายสต็อกโดยเร็วที่สุด ในช่วงที่ราคายังดีอยู่"
นายชวพฤฒ อินทรเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 7 (สศข.7) จ.ชัยนาท สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า ตลาดกลางข้าวถือว่าเป็นระบบการค้าข้าวที่ดีที่สุด แต่จากโครงการรับจำนำที่ผ่านมา ทำให้ตลาดกลางต้องทยอยปิดตัว
“ตลาดกลางใหญ่อย่างของกำนันทรง ที่หน่วยงานภาครัฐนิยมให้เป็นราคาอ้างอิงประจำวัน ในขณะนี้ยังต้องปิดตัวลง ดังนั้นตลาดกลางรายเล็กรายน้อยไม่ต้องพูดถึง เพราะไปไม่ไหว การฟื้นฟูให้เปิดกิจการขึ้นมาใหม่เป็นไปได้ยาก ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่เห็นความสำคัญ“ นายชวพฤฒ กล่าว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |