www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

กขช.เคาะประกันราคาข้าว 25 ตัน/ราย


นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) วานนี้ (16 ก.ย.) ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การประกันรายได้ให้เกษตรกร ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2552/2553 โดยราคาประกันราคาข้าวเปลือก ณ ความชื้นไม่เกิน 15% กำหนดดังนี้

1. ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 15,300 บาท ปริมาณที่รับประกันไม่เกิน 14 ตันต่อครัวเรือน 2. ข้าวเปลือกหอมจังหวัดตันละ 14,300 บาท และปริมาณรับประกันเกิน 16 ตันต่อครัวเรือน 3. ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท และปริมาณที่รับประกันไม่เกิน 25 ตันต่อครัวเรือน 4. ข้าวเปลือกปทุมธานีตันละ 10,000 บาท และปริมาณที่รับประกันไม่เกิน 25 ตันต่อครัวเรือน และ 5. ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 9,500 บาท และปริมาณที่รับประกันไม่เกิน 16 ตันต่อครัวเรือน ทั้งนี้ ให้เกษตรกรสามารถขอใช้สิทธิประกันราคาไม่เกินปีละ 2 ครั้งต่อราย และปริมาณที่รับประกันต้องไม่เกินโควตาที่กำหนดไว้

พร้อมกันนั้น กขช.เห็นชอบขยายระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเกษตรกร จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2552 โดยให้ขยายเวลาออกไปเป็นสิ้นสุดเป็นวันที่ 31 ต.ค. 2552 สำหรับพื้นที่ปลูกข้าวในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากการขึ้นทะเบียนล่าช้า โดยเฉพาะการทำประชาคมในพื้นที่ ซึ่งตนได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทย เร่งเข้าไปดำเนินการในเรื่องการทำประชาคม

ส่วนในพื้นที่ปลูกข้าวภาคใต้ให้ขยายระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเกษตรกรไปจนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2553 ขณะที่การเริ่มทำสัญญากับเกษตรที่จะเข้าร่วมโครงการจะเริ่มต้นวันที่ 1 ต.ค.ซึ่งตนมองว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะทั้งสองขั้นตอนนี้สามารถทำคู่ขนานกันได้

นอกจากนี้ กขช.ยังได้ให้กรมการข้าว จัดทำผลผลิตต่อไร่ เป็นรายจังหวัด แยกพื้นที่ปลูกข้าวในและนอกเขตชลประทาน เพื่อใช้เป็นฐานในการคำนวณปริมาณประกันรายได้ และเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ ประกาศราคาอ้างอิงในการจำหน่ายข้าว ให้เกษตรกรทุกๆ 15 วัน หรือวันที่ 1 และวันที่ 16 ของเดือน อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหากขั้นตอนการประกาศราคาอ้างอิงสามารถทำได้เร็วขึ้น ก็อาจลดเวลาประกาศราคาอ้างอิงเป็นทุกๆ 7 วัน แต่ตนเชื่อว่าในขั้นตอนการปฏิบัติอาจทำได้ยาก

นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลต้องการจะประกันราคาตามที่สมาคมชาวนาไทยเสนอไว้ที่ 40 ตัน แต่เนื่องจากงบประมาณมีน้อย ทำให้ไม่สามารถทำได้ โครงการประกันราคาถือว่าจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เกษตรกรจะต้องช่วยเหลือตนเอง ลดต้นทุนการผลิต มีการติดตามข่าวสาร พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต จะทำให้ชาวนาไทยอยู่รอดและสบายมากขึ้น

จากการประเมินประเทศผู้ผลิตข้าวปัจจุบันพบว่าไทยยังมีศักยภาพสูงกว่าคู่แข่งมาก จะเห็นได้จากเวียดนามที่แม้จะมีการส่งออกเป็นได้ปีละ 5-6 ล้านตัน ยังเป็นรองไทยที่ส่งออกได้ประมาณ 9-10 ล้านตันต่อปี เนื่องจากเวียดนามมีพื้นที่ผลิตน้อยและใช้บริโภคภายในประเทศจำนวนมาก จีนแม้จะมีผลผลิตต่อไร่สูงถึงประมาณ 2,000 กิโลกรัมต่อไร่ แต่เป็นข้าวคุณภาพไม่ดี ใช้บริโภคในประเทศจำนวนมากเหลือส่งออกน้อยประมาณ 1 ล้านตันต่อปีเท่านั้น เช่นเดียวกับพม่า ที่แนวโน้มการส่งออกจะสูงขึ้นแต่ก็ไม่เพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศ ดังนั้น หากชาวนาปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตเพียงเล็กน้อย จะทำให้ไทยยังเป็นหนึ่งในเรื่องข้าวต่อไป

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.