www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

อินเดียขอซื้อข้าว 2 ล้านตัน พาณิชย์มั่นใจราคาทะยาน


รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า รัฐบาลอินเดียได้ส่งหนังสือเข้ามาทาบทามขอซื้อข้าวจากสต็อกรัฐบาลไทยแบบรัฐต่อรัฐ เบื้องต้นจะขอซื้อในปริมาณ 2 ล้านตัน โดยขณะนี้รัฐบาลได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจาต่อรองราคากับรัฐบาลอินเดียแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปออกมา

ภาวะภัยแล้งในอินเดีย ส่งผลให้ผลผลิตข้าวเสียหายอย่างหนัก โดยประมาณการว่าผลผลิตจะลดลง 16-17 ล้านตัน นักวิเคราะห์คาดว่าอินเดียต้องนำเข้าประมาณ 3-5 ล้านตัน โดยมีแผนเจรจากับไทยและเวียดนาม

นายอานันท์ ชาร์มา รัฐมนตรีพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดีย กล่าวว่า อินเดียกำลังเจรจากับไทยและเวียดนาม เกี่ยวกับการซื้อข้าว เพื่อชดเชยการปลูกข้าวที่คาดว่าจะลดลง หลังจากฝนตกน้อยที่สุดในรอบเกือบ 4 ทศวรรษ

นายอานันท์ กล่าวว่า บรรดารัฐมนตรีจะหารือข้อเสนอซื้อข้าว ในวันที่ 20 พ.ย. โดยการนำเข้าจะอยู่ในรูปของการทำสัญญาแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล

อินเดียเป็นผู้ปลูกข้าวรายใหญ่อันดับที่ 2 แต่คาดว่าการเก็บเกี่ยวปีนี้จะลดลงมากจากสองปีก่อนกระทรวงเกษตรอินเดียคาดว่าการปลูกข้าวอาจลดลง 18% เหลือ 69.45 ล้านตัน จากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ 84.58 ล้านตันของปีที่แล้ว เพราะฝนตกน้อยที่สุดตั้งแต่ปี 2515 จนบริษัท เอ็มเอ็มทีซี บริษัท เอสทีซี และบริษัทพีอีซี ของรัฐบาลถูกขอร้องให้นำเข้าข้าวรายละ10,000 ตัน สำหรับส่งมอบเดือนพ.ย. และเดือนธ.ค. ขณะที่บริษัทเอกชนได้ซื้อข้าวจากต่างประเทศแล้ว

ราคาข้าวในตลาดอินเดียพุ่งขึ้น 25% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เพราะกังวลเกี่ยวกับการจัดหาข้าว ขณะที่ราคาข้าวในตลาดล่วงหน้าชิคาโกพุ่งขึ้น 36% จากระดับต่ำสุดของปีนี้ที่ 11.195 ดอลลาร์ ต่อ 100 ปอนด์ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.

หากอินเดียต้องซื้อข้าว ก็จะทำให้ประเทศนี้ต้องกลายเป็นผู้นำเข้าข้าวครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ นายซามาเรนดู โมฮันตี นักเศรษฐ-ศาสตร์แห่งสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ คาดว่า อินเดียอาจซื้อข้าว 3 ล้านตัน

ฟิลิปปินส์เล็งซื้อข้าว 2 ครั้งซ้อนสัปดาห์เดียว

ฟิลิปปินส์จะจัดประมูลซื้อข้าวอีก 600,000 ตัน วันที่ 8 ธ.ค. นี้ โดยวางแผนซื้อข้าวมากเป็นประวัติการณ์ 1.2 ล้านตันในสัปดาห์เดียว การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีข่าวว่าฟิลิปปินส์จะประมูลซื้อข้าว 600,000 ตัน ในวันที่ 1 ธ.ค. จนทำให้มีคำถามว่าเหตุใดฟิลิปปินส์จึงเร่งซื้อข้าวขณะที่ไม่มีภาวะขาดแคลนในขณะนี้ และนับเป็นครั้งแรกที่สำนักงานอาหารแห่งชาติมีกำหนดประมูลซื้อข้าวติดต่อกัน

ชี้ราคาข้าวทะยานต่อเนื่อง

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ทราบว่า ปัจจุบันสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เช่น ข้าวเปลือกเจ้า 5% ความชื้นไม่เกิน 15% จากราคาตันละ 8,000-8,900 บาท ณ วันที่ 30 ต.ค. 2552 เป็นตันละ 8,600-9,200 บาท ณ วันที่ 9 พ.ย. 2552 ข้าวเปลือกปทุมธานีจากราคาตันละ 8,500-8,700 บาท เป็นตันละ 9,700-9,800 บาท และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว จากราคาตันละ 8,000-9,000 บาท เป็นตันละ 8,500-9,100 บาท

“หากราคาตลาดสูงขึ้นจนสูงกว่าหรือใกล้เคียงกับราคาประกันข้าวเปลือกที่กำหนด จะทำให้เกณฑ์กลางอ้างอิงสูงขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ส่วนต่างราคาที่เกษตรกรจะได้รับจากการชดเชยรายได้โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ตั้งไว้จำนวน 4 หมื่นล้านบาท ลดลงหรือ อาจไม่ต้องชดเชยเลย”

“นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังขอความเห็นชอบ ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการกู้เงินสำหรับใช้เป็นทุนหมุนเวียนแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/2553 ในวงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาท โดยขอให้ทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ย. จากเดิมที่กำหนดให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้และจัดสรรเงินเพื่อชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ย” เป็น ให้กระทรวงการคลังเป็น ผู้ค้ำประกันเงินกู้และรัฐรับภาระจัดสรรเงินเพื่อชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ย และผลขาดทุนจากการดำเนินงานตามโครงการแทรก-แซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/2553 จากงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2554”

“พาณิชย์”มั่นใจราคาข้าวทรงตัวสูง

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ภาวะข้าวในตลาดอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีการกดราคารับซื้อและเชื่อว่าภาวะราคา จะมีเสถียรภาพเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีก แม้ช่วงเดือนธ.ค.-ม.ค. ข้าวจะออกสู่ตลาดจำนวนมากก็ตาม ซึ่งภาวะราคาข้าวภายในประเทศ เป็นไปตามภาวะตลาดโลก

“ราคาข้าวที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ไม่มีชาวนามาร่วมโครงการเชื่อว่าราคาข้าวจะมีเสถียรภาพอย่างนี้ต่อไปอีก ตามภาวะตลาดโลก ขณะที่โครงการตั้งโต๊ะแทรกแซงรับซื้อมีข้าวเข้าโครงการน้อยหรือแทบไม่มีเลยเช่นเดียวกันเพราะราคาสูงต่อเนื่อง” นางสาวชุติมา กล่าว
หวังราคาข้าวพุ่งเท่าทองคำ

นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ราคาข้าวขณะนี้ไม่ถือว่าสูงขึ้น แต่อยู่ในระดับปกติ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ราคาข้าวได้ต่ำมาก จากการกดราคาของโครงการประกันรายได้ของภาครัฐ ที่กังวลว่าจะไม่มีเงินจ่ายค่าชดเชยข้าวช่วงนั้น ตันละ 12,000 บาทเท่านั้น จากราคาที่ควรจะเป็นอยู่ที่ตันละ 14,000 บาท ซึ่งโครงการประกันที่รัฐบาลประกาศไว้เป็นราคาที่ต่ำมาก

“เวียดนามประกาศขายข้าวล่วงหน้าไปแล้ว 5 ล้านตัน และเกิดปัญหาขณะนี้ไม่มีข้าวส่งมอบตามสัญญา เนื่องจากข้าวภายในประเทศได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่นเดียวกับอินเดียและฟิลิปปินส์ ซึ่งปีนี้ต้องนำเข้าข้าวเร็วขึ้น ทั้งหมดจึงเป็นสัญญาณให้ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น “นายชาญชัย กล่าว

จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ราคาข้าวจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงกลางปี 2553 ดังนั้น คาดว่าแนวโน้มราคาข้าวหอมมะลิของไทย อาจจะขายได้ในราคาเท่ากับทองคำ แต่ข้าวเจ้าทั่วไปคงไม่ถึง แต่จะอยู่ที่ตันละ 14,000-15,000 บาท

“จากการสังเกตระดับราคาข้าว 1 ตัน น่าจะเท่ากับราคาทองคำน้ำหนัก 1 บาท ดังนั้น ราคาข้าวที่เกษตรกรขายได้ ขณะนี้เฉลี่ยตันละ 10,000 บาท ยังต่ำกว่าทองคำน้ำหนัก 1 บาท ที่มีราคาสูงถึง 18,000 บาทแล้ว หลายคนอาจมองว่าปี 2551 ราคาข้าวเท่ากับราคาทองคำ” นายชาญชัย กล่าว

เตือนเทขายสต็อกรัฐฉุดราคาร่วง

นายชาญชัย กล่าวว่า สิ่งที่ควรระวังเกี่ยวกับราคาข้าวภายในประเทศจะตกต่ำ ขณะนี้ คือ การประกาศขายข้าวในสต็อกของรัฐบาล ที่ไม่ควรจะประกาศในปีนี้แต่ควรรอให้ถึงกลางปี 2553 ที่ข้าวในมือเกษตรกรไม่มีแล้ว และราคาช่วงนั้นมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

รวมทั้งรัฐบาลไม่มีเหตุผลเรื่องไม่มีโกดัง สำหรับเก็บข้าวใหม่มาอ้างเพราะในปี 2552/2553 รัฐบาลไม่มีนโยบายรับซื้อและจัดเก็บข้าว หากต้องการเงินมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนก็ควรจะประกาศราคาขายข้าวในสต็อกบางส่วนแทนการเปิดประมูล เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับราคาข้าวในตลาด
แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสี กล่าวว่า ขณะนี้โรงสีส่วนใหญ่เร่งซื้อข้าวจากชาวนามาเก็บไว้ เพื่อให้มีสต็อกสำหรับการเดินเครื่องจักร เพราะปริมาณโรงสีที่มีอยู่มากถึง 3 เท่าของปริมาณผลผลิตข้าวที่ได้ในแต่ละปี ส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับทิศทางราคาข้าวในตลาดโลก มีแนวโน้มสูงขึ้นการเริ่มซื้อข้าวในตลาดขณะนี้ จะลดความเสี่ยงที่ต้องซื้อข้าวในราคาที่สูงขึ้นในอนาคต

ชี้ปีหน้าส่งออกข้าว10ล้านตัน

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวของไทยอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านตันในปีหน้า เพราะความต้องการจากตลาดแอฟริกาที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับอินเดียไม่สามารถส่งออกข้าวได้ ส่วนปีนี้ส่งออกที่ 8.3 ล้านตัน ต่ำกว่าเป้าหมาย 9 ล้านตันที่คาดไว้

สมาคมชาวนาวอนรัฐชดเชยย้อนหลัง

นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาข้าวภายในประเทศสูงขณะนี้ เป็นผลมาจากความต้องการข้าวในต่างประเทศมีสูง ทั้งนี้ราคาข้าวหลังจากนี้ไป ไม่น่าเป็นห่วง แนวโน้มราคาสูงขึ้นแน่นอน แต่เกษตรกรที่ขายไป เมื่อเดือนก่อนได้ราคาที่ต่ำมาก จึงอยากให้รัฐบาลชดเชยย้อนหลังเท่ากับราคาที่เกษตรกรขายสูงสุดขณะนี้ด้วย เพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียโอกาสที่ควรได้รับ

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.