นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวนาปรังประจำปี 2552 จำนวน 2-2.5 ล้านตัน ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม-31 กรกฎาคมนี้ ส่วนรูปแบบการดำเนินงานรวมถึงการตั้งราคารับจำนำนั้น ที่ประชุมมอบหมายให้คณะอนุกรรมการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าว มีตนเป็นประธาน พิจารณาและเสนอ กขช.อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีมติให้ปรับราคาการรับจำนำข้าวหอมจังหวัดจากเดิม 13,000 ตัน เป็น 14,000 ตัน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯมอบหมายให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลการระบายข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 จำนวน 3.9 ล้านตัน ที่ทำให้รัฐขาดทุนจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาทว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเหตุผลที่กระทรวงพาณิชย์อ้างว่ามีการจ้างบริษัทเอกชนให้ตรวจสอบคุณภาพข้าวและพบว่าข้าวไม่ได้คุณภาพเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องขายในราคาต่ำ

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ที่ประชุม กขช.มีมติเห็นชอบจัดตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ชุดเพื่อดูแลเรื่องข้าวอย่างครบวงจร ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการดูแลการผลิตข้าวแห่งชาติ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน 2.คณะอนุกรรมการด้านการตลาด 3.คณะอนุกรรมการรับจำนำข้าวเปลือก 4.คณะอนุกรรมการระบายข้าว มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และ 5.คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดเป็นประธาน "คณะอนุกรรมการทั้งหมดจะทำหน้าที่คัดกรองข้อมูลก่อนเสนอ กขช. โดยคณะอนุกรรมการรับจำนำจะไม่มีสิทธิกำหนดราคารับจำนำเหมือนที่ผ่านมา ทำได้เพียงเสนอราคาให้กขช.พิจารณาเท่านั้น"

ก่อนหน้านี้ วงการค้าข้าวได้ท้วงติงว่าไม่จำเป็นต้องรับจำนำเพิ่ม เพราะราคาข้าวตกต่ำจะเป็นการซ้ำเติมตลาด และตั้งข้อสังเกตว่าขณะนี้มีกลุ่มนายทุนได้รับซื้อข้าวจากเกษตรกรเกือบหมดแล้วเพื่อรอเข้าโครงการรับจำนำ

ที่มา มติชน