www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

รายเล็ก-กลางร้องจ๊ากแข่งประมูลข้าวตปท.สู้รายใหญ่ไม่ได้


ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นเตรียมเปิดประมูลข้าวขาว 100% อีกครั้งในวันที่ 18 มีนาคมนี้ประมาณ 25,000-30,000 ตัน คาดว่าจะมีผู้ส่งออกหลายรายเข้าร่วมประมูลเพราะครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายในปีงบประมาณญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประมูลไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 45,000 ตัน รวมปริมาณ 90,000 ตัน ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นข้าวขาว 100% และข้าวเหนียว 10% ซึ่งผู้ส่งออกไทยที่ชนะการประมูลทั้งสองครั้ง เช่น บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด บริษัท ข้าวไชยพร จำกัด บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบริษัทเจียเม้ง จำกัด เป็นต้น โดยราคาที่ขายอยู่ที่ 570 เหรียญสหรัฐต่อตัน ต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายในตลาดราว 30 เหรียญสหรัฐต่อตัน

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวได้ตั้งข้อสังเกตถึงการขายข้าวของผู้ส่งออกขณะนี้ว่า ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่ชนะการประมูลข้าวของรัฐบาลซึ่งมีอยู่ไม่กี่รายกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบผู้ส่งออกรายเล็ก-รายกลางที่ไม่มีข้าวจากสต๊อกของรัฐบาล เพราะข้าวดังกล่าวเป็นข้าวต้นทุนต่ำกระสอบละ 1,300 บาท ซึ่งเมื่อนำมาผสมกับข้าวที่ซื้อจากตลาดซึ่งมีต้นทุนอยู่ที่กระสอบละ 2,000 บาท หากผสมข้าวเก่าไปสัดส่วน 20-30% ทำให้ขายได้ราวกระสอบละ 1,700-1,800 บาท ซึ่งเพียง เท่านี้ก็สามารถขายตัดราคาผู้ส่งออกรายเล็กในตลาดเดียวกันได้แล้ว

ปัจจุบันผู้ส่งออกรายกลาง-รายเล็กหลายรายหารือกันถึงพฤติกรรมที่ผู้ส่งออกรายใหญ่มีการซื้อข้าวจากสต๊อกรัฐบาลนำมาผสมแล้วก็ตัดราคากันเอง ทำให้ราคาข้าวที่ขายในตลาดกลายเป็น 2 ราคา แต่ก็เคยมีการคุยกันในวงการว่า ควรให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเป็นตัวกลางในการร่วมประมูลข้าว แล้วนำออร์เดอร์มาแบ่งให้สมาชิก แต่ก็ไม่เคยมีการพูดจริงจัง

ประเด็นหนึ่งที่น่าเป็นห่วงคือกระทรวงพาณิชย์เองก็ยังอาศัยวิธีการเดิม คือจำนำเต็มที่ เก็บสต๊อกแล้วระบายสต๊อกให้ผู้ส่งออกในประเทศ เพราะสะดวกกว่าขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ซึ่งจะต้องไปหาออร์เดอร์ต่างประเทศ ซึ่งทั้งวิธีการเปิดประมูลและการทำจีทูจีรัฐบาลจะต้องเป็นฝ่ายขาดทุนเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงวิธี จีทูจีจะไม่ทำลายราคาข้าวในประเทศ แต่วิธีการประมูลอาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝงมากกว่าการทำจีทูจีด้วย

ขณะนี้คาดว่าสต๊อกข้าวของรัฐบาล น่าจะมีประมาณ 5-6 ล้านตันข้าวสาร แบ่งเป็นลอตเก่าสมัยนายไชยา สะสมทรัพย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 1-2 ล้านตัน และสต๊อกข้าวใหม่จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 จำนวน 4 ล้านตันข้าวสาร หากประมูลอีกรอบคาดว่าผู้ส่งออกรายใหญ่ๆ ก็จะเข้าแข่งขันซื้อข้าวราคาถูกกักตุนไว้เป็นสต๊อก ขณะที่รายเล็ก-รายกลางหากไม่สามารถประมูลแข่งขันได้จะประสบปัญหาในการแข่งขันด้านราคาในตลาดส่งออก

อย่างไรก็ตามต้องรอดูนโยบายของนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ว่าจะมีทิศทางอย่างไร ซึ่งตามความเห็นของกรมการค้าต่างประเทศเห็นว่ารัฐบาลยังไม่ควรระบายข้าวในขณะนี้ เพราะอาจจะทำลายราคาข้าวในตลาดซึ่งกำลังทรงตัวอยู่ในขณะนี้ปรับลดลงได้

ดังนั้นรัฐบาลควรไปทำ จีทูจีแทน แต่ก็ลำบากในแง่ที่ประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศชะลอการนำเข้า อย่างญี่ปุ่นก็จะเปิดประมูลลอตสุดท้ายของปีนี้

"หากรัฐบาลยังคงล่าช้า อีกไม่เกินเดือนเมษายนทางรัฐบาลอินเดียน่าจะกลับมาส่งออกอีกครั้ง เพราะขณะนี้ได้มีการผ่อนปรนให้เริ่มส่งออกข้าว 2 ล้านตัน เบื้องต้นคาดว่าบังกลาเทศและตะวันออกกลางบางประเทศที่สนใจซื้อเพราะราคาข้าวนึ่งของอินเดียต่ำกว่าไทย 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน เท่ากับไทยเสียเปรียบทั้งราคาข้าวแพงกว่าคู่แข่งทั้งอินเดียและเวียดนาม โดยนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมจะไปหารือกับเวียดนาม อีกครั้ง ระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคมนี้" แหล่งข่าวกล่าว

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.