นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ได้หารือกับกองบังคับการตำรวจน้ำ เพื่อแก้ปัญหาการโจรกรรมข้าวสารระหว่างรอการส่งออกบริเวณท่าเรือแล้ว หลังจากขณะนี้กลุ่มโจรออก อาละวาดอย่างหนัก สร้างความเสียหายแก่ผู้ส่งออกข้าวรวมหลายล้านบาท โดยตำรวจน้ำสั่งให้ผู้ส่งออกข้าว จัดทำรายละเอียดการขนย้ายว่าใช้บริษัทในการขนย้ายเพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนหาผู้กระทำผิดหากพบการกระทำผิดจะใช้ พ.ร.บ.ศุลกากรทางน้ำ พ.ศ.2549 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาด

“แก๊งลักข้าวกลุ่มนี้ มีการโจรกรรมที่แยบยลมาก โดยทำลายลักฐานกระสอบบรรจุข้าวหลังเทข้าวใส่ภาชนะอื่น จึงทำให้เจ้าทุกข์ไม่สามารถชี้ของกลางได้ และยากที่จะมีกฎหมายสาวไปถึง ทำให้การร่วมมือครั้งนี้จะต้องใช้กฎหมายอื่นๆเข้ามาจัดการแทน และจะมีการประเมินผลการสืบสวนทุกๆ เดือน”

ทั้งนี้ ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีสมาคมได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีแก๊งลักข้าวออกอาละวาดมากขึ้น โดยผู้ส่งออกแต่ละรายได้รับความเสียหายจากการโจรกรรมไม่น้อยกว่า 100 กระสอบ คิดเป็นความเสียหายครั้งหนึ่งหลายแสนบาท ซึ่งเดิมทีแก๊งนี้ได้เงียบหายไปช่วงหนึ่ง หลังจากประสานงานกับตำรวจน้ำเพื่อปราบปรามอย่างจริงจัง แต่เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีกลุ่มโจรก็กลับมาชุกชุมอีกครั้ง ช่วงต้นปีที่แล้ว ก็เคยเกิดแก๊งโจรกรรมข้าวอาละวาดมาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะข้าวมีการขยับราคาสูงขึ้นเป็นเท่าตัว จึงได้ประสานกับตำรวจทางน้ำเพื่อขอให้เพิ่มการตรวจสอบเรือขนสินค้าว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ก็ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง แต่พอมาช่วงนี้เศรษฐกิจแย่โจรก็กลับมากระทำผิดอีกครั้ง

“ตอนนี้ขบวนการโจรกรรมข้าวกลับมาอีกครั้งและเริ่มมีความรุนแรงขึ้น หลังจากก่อนนี้เคยเกิดขึ้นสมัยที่ข้าวขยับราคาสูงขึ้นเมื่อต้นปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้อาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจไม่ดีทำให้เกิดหัวขโมยขึ้นมาใหม่ โดยการโจรกรรมแต่ละครั้งมีมากเป็น 100 กระสอบ ทำให้สังเกตได้ชัด ต่างจากแต่ก่อนที่ขโมยกันไม่มากทำให้ไม่เป็นที่สังเกต อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบทั้งจากภาพพจน์การส่งออกข้าวไทย และสร้างความสูญเสียต่อธุรกิจระดับกลางระดับย่อม เพราะตอนนี้การส่งออกข้าวไม่ได้มาก หากมีการโจรกรรมย่อมจะซ้ำเติมให้ธุรกิจแย่ลงอีก”

นายชูเกียรติ กล่าวว่า สถานการณ์ส่งออกข้าวเดือน มี.ค. ซบเซามา 2 สัปดาห์ แล้ว เพราะผู้ซื้อกำลังรอความชัดเจนนโยบายส่งออกจากอินเดีย ว่าจะระบายข้าวจำนวนและราคาเท่าไร แต่ภาพรวมการส่งออกข้าวเดือน มี.ค. น่าจะเกิด 700,000 ตัน เพราะผู้ส่งออกจะต้องเร่งระบายข้าว ก่อนเดือน เม.ย. ที่จะมีเทศกาลหยุดยาววันสงกรานต์ สำหรับการส่งออก 1 ม.ค.-12 มี.ค. 52 ส่งออกแล้วทั้งสิ้น 1.5 ล้านตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 35.8% ที่ส่งออกได้ 2.4 ล้านตัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีแผนเปิดประมูลข้าวให้เอกชนช่วงนี้ แต่จะเลือกวิธีทำหนังสือไปยังกลุ่มประเทศที่ต้องการซื้อข้าวจากไทยแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพื่อขอคำยืนยันว่าจะสั่งซื้อข้าวไทยก่อน เพราะก่อนหน้านี้หลายประเทศติดต่อเข้ามาซื้อข้าวไทย เช่น แองโกลา ไลบีเรีย จิบูติ รวมปริมาณ 500,000-600,000 ตัน เพื่อดูยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศเตรียมพร้อมสำหรับเปิดโครงการรับจำนำนาปรัง ปี 52 อีก 2.5 ล้านตัน และหลังจากนั้นถึงจะเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาล โดยคาดว่าเริ่มเปิดระบายได้ช่วงปลาย มี.ค. เพราะเป็นเวลาเหมาะสมไม่น่าจะกระทบต่อราคาข้าวให้ลดลง เนื่องจากรัฐบาลจะทยอยระบายครั้งละ 200,000-300,000 ตันเท่านั้น เพื่อไม่ให้มีผลต่อราคาข้าวในตลาด.

ที่มา ไทยรัฐ