นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ว่า กขช.เห็นว่าหลังจากราคาข้าวในตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวเปลือก ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศทุก 15 วัน ไม่สะท้อนความเป็นจริง ที่ประชุมจึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณาปรับเกณฑ์กลางอ้างอิงให้ถี่ขึ้นเป็น 10 วัน เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุด มาเสนอให้ที่ประชุม กขช.พิจารณาในสัปดาห์หน้า

รายงานข่าวที่ประชุมแจ้งว่า นายกอร์ปศักดิ์ ต้องการให้ประกาศราคาเร็วขึ้น เพราะต้องการป้องกันไม่ให้ผู้ส่งออกกดราคารับซื้อข้าว ที่จะรับซื้อในราคาใกล้เคียงกับราคาอ้างอิง ทั้งที่ราคาข้าวในประเทศควรเพิ่มสูงขึ้นสอดรับกับราคาตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามความต้องการของตลาด ซึ่งจะทำให้ผู้ส่งออกได้ประโยชน์ที่ซื้อราคาอ้างอิงต่ำ แต่ขายราคาตลาดสูง ขณะที่รัฐเสียประโยชน์ในแง่การชดเชย แต่หากประกาศเร็วขึ้นและไล่ราคาสูงขึ้น ผู้ส่งออกต้องไล่ซื้อตาม

จากข้อมูลที่กระทรวงพาณิชย์ รายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่าราคาในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากช่วงปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา อาทิเช่น ข้าวเปลือกเจ้า 5% ความชื้นไม่เกิน 15% จากราคาตันละ 8,000-8,900 บาท ณ วันที่ 30 ต.ค. 2552 เป็นตันละ 8,600-9,200 บาท ณ วันที่ 9 พ.ย. 2552 ข้าวเปลือกปทุมธานีจากราคาตันละ 8,500-8,700 บาท เป็นตันละ 9,700-9,800 บาท และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว จากราคาตันละ 8,000-9,000 บาท เป็นตันละ 8,500-9,100 บาท

พรทิวาปัดร่นประกาศราคาอ้างอิงเร็วขึ้น

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีแผนประกาศราคาอ้างอิงข้าวให้เร็วขึ้นจากปัจจุบันที่จะประกาศทุกๆ วันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน เนื่องจากเห็นว่าราคาขณะนี้ไม่มีการผันผวน แต่เป็นทิศทางขาขึ้นที่เป็นประโยชน์กับเกษตรกรอยู่แล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า การประกาศราคาอ้างอิงให้เร็วขึ้น จะสร้างปัญหาความสับสนให้ตลาดข้าว เนื่องจากเป็นราคาที่ผู้ซื้อทั้งในส่วนโรงสีและผู้ส่งออกนำไปใช้ หากราคาเปลี่ยนแปลงบ่อย จะสร้างความตกใจให้ตลาด โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร

นางพรทิวา กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีแผนเปิด ระบายข้าวในสต็อกเป็นการทั่วไป แต่จะทำการขายผ่านรัฐต่อรัฐเท่านั้น ส่วนข้อกังวลผู้ส่งออกที่ห่วงว่าจะไม่มีข้าวส่งมอบให้ลูกค้า จนไม่กล้ารับออเดอร์นั้น เชื่อว่าผู้ส่งออกจะสามารถหาข้าวในท้องตลาดได้อย่างแน่นอน หากรัฐระบายข้าวช่วงนี้ จะเกิดผลกระทบต่อราคาตลาดได้

เปิดทางข้าวอายุสั้นเข้าโครงการประกัน

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อว่า ราคาข้าวที่สูงขึ้นส่วนหนึ่ง เป็นเพราะความต้องการจากภายนอกที่ขาดแคลน ประกอบกับนโยบายประกันราคาและมาตรการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการรักษา เสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ที่จะมีการกู้เงิน สำหรับใช้เป็นทุนหมุนเวียนแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/2553 ในวงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาท ทำให้พ่อค้าคนกลาง ไม่สามารถกดราคารับซื้อจากชาวนา ราคาข้าวจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุม กขช.ยังเห็นชอบให้เกษตรกรที่ปลูกเบา หรือข้าวอายุสั้น ที่มีเวลาปลูกจนถึงเวลาเก็บเกี่ยว 90-120 วัน ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพต่ำที่มีอยู่ประมาณ 400,000 ตัน สามารถเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ปี 2552/2553 ได้ ในราคาตันละ 10,000 บาท

ส่วนการขายข้าว 25% ให้กับอินเดียจำนวน 2 ล้านตัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งดำเนินการ

นอกจากนี้ ที่ประชุม กขช.ยังรับทราบความก้าวหน้า การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่จะเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ ณ วันที่ 17 พ.ย. มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมาขึ้นทะเบียนแล้ว 3,247,856 ราย ทำประชาคมแล้ว 3,139,498 ราย แต่ทำสัญญาประกันรายได้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพียง 987,129 ราย

สั่งสอบ อคส.เช่าไซโล 30 ปี

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า กขช.ยังมอบหมายให้สำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ ที่กำกับดูแลองค์การคลังสินค้า (อคส.) ไปพิจารณาประเด็นปัญหาต่างๆ แล้ว เสนอให้ที่ประชุม กขช.พิจารณาภายใน 30 วัน ทั้งเรื่องการทำสัญญาเช่าไซโลระยะยาว 30 ปีของ อคส. ว่าเข้าข่ายพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ และการทำสัญญาระยะยาวถึง 30 ปี จะต้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบสัญญาก่อนลงนามหรือไ

ฟิลิปปินส์เล็งนำเข้าข้าวล้านตันก่อนสิ้นปี

เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานด้านอาหารของฟิลิปปินส์ ระบุว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์อาจจะเปิดประมูลข้าว ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.ไปจนถึงถึงวันที่ 25 ธ.ค. เพื่อนำมาแก้ปัญหาขาดแคลนผลผลิตข้าวจำนวน 1.3 ล้านตัน การเปิดประมูลข้าวรอบนี้ของฟิลิปปินส์ อาจจะกระตุ้นให้ราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า อินเดียได้สั่งซื้อข้าวจากไทยและเวียดนาม เพราะประสบปัญหาภัยแล้ง จนส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตข้าวในประเทศ ที่ถือเป็นชาติที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ของโลกลดลง

นายเกา ทิ ง็อก โฮ รองผู้อำนวยการเวียดนาม เซาธ์เทิร์น ฟู้ด คอร์ป หรือวินาฟู้ด 2 ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดของเวียดนาม แสดงความมั่นใจว่า การเปิดประมูลข้าวของฟิลิปปินส์ล็อตนี้ จะหนุน ราคาข้าวในตลาดโลกทะยานขึ้นแน่นอน แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ

ราคาข้าวล่วงหน้าทะยาน 36%

ราคาข้าวตลาดล่วงหน้าที่ตลาดสิงคโปร์ ทะยานขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยปรับตัวขึ้น 0.5% เป็น 15.27 ดอลลาร์ ต่อ 100 ปอนด์ โดยสัญญาล่วงหน้าค้าข้าว ทะยานขึ้น 36% นับตั้งแต่ทรุดลงแตะระดับ 11.195 ดอลลาร์ต่อ 100 ปอนด์ เมื่อเดือน มี.ค.

อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวเคยทะยานขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 25.07 ดอลลาร์ต่อ 100 ปอนด์ เมื่อเดือน เม.ย. 2551 เพราะความวิตกกังวลว่า โลกอาจจะเผชิญภาวะขาดแคลนข้าว เพราะหลายประเทศ รวมทั้งเวียดนาม และอินเดีย ระงับการส่งออกข้าว

ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้เปิดประมูลข้าวไปแล้วจำนวน 1.45 ล้านตันสำหรับปีหน้า ซึ่งการประกาศประมูลข้าวล็อตใหม่เพิ่มอีก 1 ล้านตันครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนนำเข้าข้าว 2.45 ล้านตันสำหรับปี 2553 โดยฟิลิปปินส์เริ่มทยอยสั่งซื้อข้าวตลอดช่วง 7 สัปดาห์ไปจนถึงวันที่ 22 ธ.ค. ซึ่งเท่ากับ 8.3%ของปริมาณการค้าข้าวทั่วโลก อินเดีย ประเทศผู้ปลูกข้าวและบริโภคข้าวรายใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลก กำลังต้องการนำเข้าข้าวมากถึง 2 ล้านตัน ขณะที่กระทรวงเกษตรสหรัฐ ระบุว่า ปริมาณการค้าข้าวทั่วโลกจะอยู่ที่ 29.5 ล้านตันในปีหน้า

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ