www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

รายเล็กโวยประมูลข้าว 2.6 ล. รายใหญ่กดราคากวาดเรียบ


กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดซองประมูลข้าวจำนวน 2.6 ล้านตัน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ปรากฏมีผู้ส่งออกเข้าร่วมประมูล 32 ราย ทางคณะกรรมการพิจารณาต่อรองราคาข้าว ซึ่งมีนายนาคม ธีรสุวรรณจักร รักษาการผู้อำนวยการองค์การ คลังสินค้า (อคส.) ทำการต่อรองราคาและตัดสินใจที่จะเสนอ "อนุมัติ" ให้ระบายข้าวจำนวนเกือบ 2 ล้านตัน ให้กับผู้ส่งออกประมาณ 10 ราย ส่วนข้าวที่เหลือประมาณ 600,000 ตัน ยังไม่เคาะขายให้กับผู้ส่งออกรายใด เนื่องจากเสนอราคาต่ำกว่าราคาตลาดมาก โดยจะนำข้าวจำนวนที่เหลือนี้มาระบายอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ยังไม่เห็นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ซึ่งมีรายงานข่าวระบุว่า ครม.มีมติให้กระทรวงพาณิชย์นำผลการประมูลสินค้าเกษตรทุกรายการที่มีโอกาสขาดทุนเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ดังนั้น นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงไม่ได้นำผลประมูลข้าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันที่ 19 พฤษภาคม

ขณะที่ทางองค์การคลังสินค้าก็เรียกผู้ส่งออกที่ประมูลข้าวได้ทยอยเข้ามาเซ็นสัญญากับ อคส.แล้ว รวมทั้งมั่นใจว่าการประมูลครั้งนี้ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และไม่จำเป็นต้องรายงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ โดยผลประมูลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ มีการระบายข้าวได้เกือบ 2 ล้านตัน ในราคาสูงกว่าตันละ 14,000 บาท

ทางด้าน นายสมนึก ไชยกุล ประธานบริหาร บริษัท ไทยมาพรรณ จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทางบริษัทเข้าร่วมประมูลข้าวครั้งนี้ โดยเสนอราคา 4 โกดัง แต่ไม่ได้เลยสักโกดังเดียว ทั้งๆ ที่เสนอราคาขั้นต้นไปที่ 15,222 บาท ปริมาณ 29,000 บาท/ตัน ต่อมาปรับราคาขึ้นตามราคาตลาดที่ 16,000 บาท/ตัน หักค่าขนส่งปรับปรุง แต่ท้ายที่สุด คณะอนุกรรมการระบายข้าวกลับตัดสินให้บริษัทอื่นได้ข้าวไป ทั้งที่บริษัทเสนอราคา 15,700 บาท/ตัน ต่างกันกระสอบละ 5 บาท

ประเด็นที่น่าแปลกใจคือ ขั้นตอนการต่อรองราคาหลังการเปิดซองประมูล จะมีคณะกรรมการเจรจาเรียกไปต่อรองราคา ซึ่งทางบริษัทเสนอราคาในการประมูลหลายครั้ง แต่ปรากฏว่ากลับมีผู้ส่งออกรายอื่นสามารถประมูลได้ โดยเสนอราคาสูงกว่าไม่มาก ทำให้บริษัทเกิดความสงสัยว่าคู่แข่งอาจจะทราบข้อมูล เพราะใช้วิธีเสนอราคาสูงกว่าในโกดังที่ต้องการ แต่กลับไปกดราคาโกดังอื่นที่ไม่มีคู่แข่งให้ต่ำลง ทำให้รัฐบาลได้ราคาข้าวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

"ที่เราเสียใจก็คือเสนอราคาสูงแล้วไม่ได้ ทั้งที่เราประมูลไปส่งออก ไม่ได้ประมูลไปขายให้ผู้ส่งออกรายอื่น ผมเสนอสูงสุด 3 ครั้งแล้ว แต่ไม่เคยได้เลย คนที่ได้มีเพียง ผู้ส่งออก 4-5 รายใหญ่ที่รู้ๆ กันดี ทั้งที่ตามหลักวิธีการประมูลสินค้าเกษตรพืชผลอะไรให้ประโยชน์แก่รัฐสูงสุด ควรจะได้ ทุกวันนี้ผู้ส่งออกรายเล็กลำบาก หากมีออร์เดอร์ต้องไปขอแบ่งจากรายใหญ่ที่ประมูลได้ จริงๆ เท่ากับว่า รัฐบาลรับจำนำข้าวปีละหลายล้านตัน เพื่อมาขายราคาไม่แพงให้กับผู้ส่งออก 4-5 ราย ซึ่งผู้ส่งออกกลุ่มนี้เอาไปขายให้เมืองนอกถูกๆ กดราคาข้าวตลาดโลกอีก" นายสมนึกกล่าว

ราคาข้าวตลาดโลกขณะนี้ลงต่ำตลอดผู้ส่งออกต้องแข่งขันกันกดราคาให้ต่ำ ถ้าขายแพงไม่มีใครมาซื้อ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับเวียดนามเลย เพราะข้าวเวียดนาม 5 ล้านตันขายล่วงหน้าหมดไปแล้ว ไทยถูกเวียดนามโกหกตลอดว่าจะฮั้วกัน แต่เวียดนามขายก่อนตลอด แต่ไม่ใช่ไทยโง่นะ เพราะเราต้องรับจำนำซื้อข้าวเข้าโกดังรัฐบาล แล้วต้องรอให้รัฐบาลเปิดประมูลขาย การประมูลข้าวลอตนี้ รัฐบาลขาดทุนไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท ถ้าขาย 3 ล้านกว่าตัน จำนำมา 12,000-14,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก แล้วมาขายเป็นข้าวสาร 14,000 บาท

สำหรับสถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยในขณะนี้ถูกควบคุมด้วยกลุ่มผู้ส่งออกเพียง 4-5 ราย แต่ละรายจะมีกลุ่มเครือข่ายของตัวเองอยู่ หากคนไหนอยู่นอกกลุ่มต้องขอเขาอีก ตอนนี้กังวลว่าโครงการจำนำข้าวมันเวียนกัน ระบายวันนี้อาจจะไหลกลับเข้าโครงการจำนำอีก ถึงแม้รัฐบาลจะบอกว่าใช้บริษัทเซอร์เวเยอร์ตรวจสอบคุณภาพ แต่รู้กันอยู่ว่ามีการนำข้าวเก่าที่คุณสมบัติไม่ดีเอามาขัดๆ แล้วหมุนส่งเข้าไป ส่วนข้าวใหม่ปกติก็รับกระสอบละ 1-2 บาท

หลังจากที่ทราบผลชัดเจนว่าประมูลข้าวไม่ได้ ทางบริษัทคงต้องปรับแผนธุรกิจบ้าง แต่ไม่มีปัญหามาก เพราะไทยมาพรรณทำโรงสีซื้อข้าวเปลือกทำส่งออกเอง ส่งออกทั้ง 100% ยอดส่งออกปีละ 7,000-8,000 ล้านบาท ตลาดหลักเป็นแอฟริกาใต้, เยเมน, ไนจีเรีย, เบนิน ส่วนใหญ่เป็นข้าวนึ่ง 70-80% ที่เหลือเป็นข้าวหอมมะลิและข้าวขาว แต่ปีนี้อาจจะมีปัญหาว่าข้าวแทบทั้งหมดจะเข้าสู่โครงการรับจำนำ ทำให้บริษัทคาดว่าปีนี้จะส่งออกลดลง 40% แต่ยังประคองตัวได้

ในฐานะที่อยู่ในวงการข้าวมานาน ทางไทยมาพรรณมองว่า รัฐบาลควรต้องเดินหน้าขายข้าวแบบจีทูจี เอาข้าวจำนวนนี้ออกไปขายต่างประเทศ ส่วนผู้ส่งออกได้ค่าปรับปรุงไปตามคุณภาพข้าว เช่น อิหร่านก็คุณภาพสูงหน่อย ปีหนึ่งต้องการนำเข้าข้าวจำนวนมาก แต่ก็ไม่ทำ หากทำได้จีทูจีก็ให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวแบ่งโควตากันไปตามโควตาส่งออก ค่าปรับปรุงก็เอาอีก แต่วิธีนี้ไม่ค่อยนิยมทำแล้ว เพราะมันได้ประโยชน์น้อย กระสอบละ 10-20 บาท น้อยกว่า การเอามาประมูล ส่วนการเลิกรับจำนำข้าวควรจะทำ แต่รัฐบาลต้องหาทางไปขายข้าวเอง ตลาดที่น่าสนใจคือ อิหร่าน 7-8 แสนตันต่อปี มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มีความต้องการมาก แต่รัฐบาลไม่ยอมไปขาย ปล่อยให้เวียดนามไปเจาะตลาดนี้

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.