นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วขณะนี้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันส่งออกข้าวไทย ทำให้ราคาปรับสูงขึ้นอีก โดยข้าวหอมมะลิราคาปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อนตันละ 150 เหรียญสหรัฐ คือปรับจากตันละ 950 เหรียญสหรัฐ เป็นตันละ 1,100 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ข้าวขาว 5% ราคาปรับเพิ่มขึ้นตันละ 6 เหรียญสหรัฐ คือปรับจากตันละ 524 เหรียญสหรัฐ เป็น 530 เหรียญสหรัฐ อาจทำให้ไทยอาจสูญเสียตลาดการส่งออกข้าวให้คู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนามมากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันข้าวเวียดนามมีราคาถูกกว่าไทยมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะข้าวขาว 5% ราคาตันละ 400 เหรียญสหรัฐ ถูกกว่าข้าวไทยถึงตันละ 130 เหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องรีบเข้ามาดูแลเงินบาทอย่าให้แข็งค่ามากจนเกินไป และแข็งค่าเร็วจนเกินไป เพราะจะกระทบต่อการส่งออกข้าวซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทยโดยตรง หากรัฐบาลไม่ดูแลข้าวไทยจะถูกแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดส่งออกในตลาดโลก หากเงินบาทไม่แข็งค่าไปมากกว่านี้มั่นใจว่าไทยจะส่งออกข้าวได้มากกว่า 9 ล้านตัน ซึ่งเกินกว่าเป้าหมาย 8.5 ล้านตัน ของกระทรวงพาณิชย์แน่นอน เนื่องจากอินเดียหยุดการส่งออกข้าวในปีนี้แล้ว เพราะผลผลิตภายในเสียหายจากภัยธรรมชาติ ประกอบกับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่จะปรับลดภาษีนำเข้าข้าวลงตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53 ตามกรอบความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า

"ผลผลิตข้าวจากอินเดียเสียหายไปประมาณ 6-7 แสนตัน ทำให้ต้องหยุดส่งออกกะทันหัน ไทยจะได้ประโยชน์โดยตรงในการส่งออกตลาดข้าวนึ่งแทนที่อินเดีย ทำให้คาดว่าปีนี้ไทยจะส่งออกข้าวนึ่งได้สูงถึง 4 ล้านตัน มากกว่าปีปกติที่ส่งออกได้ประมาณ 2 ล้านตัน" นายชูเกียรติกล่าว

ส่วนแนวโน้มการส่งออกปี"53 คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ถึง 10 ล้านตัน เนื่องจากประเทศคู่แข่งส่งออกเช่น อินเดียและเวียดนามมีปริมาณผลผลิตลดลง โดยคาดว่าปีหน้าเวียดนามอาจส่งออกลดลงประมาณ 1 ล้านตัน รวมทั้งปริมาณการบริโภคข้าวของโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น 2 ล้านตันข้าวสาร ขณะที่ปริมาณผลผลิตโลกลดลงจากปีก่อน 11 ล้านตันข้าวสาร ส่วนปริมาณการค้าข้าวโลกคาดว่าจะมีปริมาณ 29 ล้านตันข้าวสาร ปรับเพิ่มขึ้น 3.6%

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าว่า สศก. อยู่ระหว่างการประเมินผลผลิตข้าวนาปี"52/53 ซึ่งหลายจังหวัดแล้งผิดปกติทำให้คาดว่าข้าวนาปีจะเสียหายจำนวนมาก และปริมาณจะออกสู่ตลาดต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้ราคาในตลาดสูงขึ้น ประกอบกับเวียดนามทำสัญญาขายข้าวหมดแล้ว อินเดีย ประสบภัยแล้งคาดว่าจะไม่สามารถส่งออกข้าวได้ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของไทยที่จะเสนอขายข้าวในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลที่จะจ่ายค่าชดเชยส่วนต่างต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ หรืออาจไม่ต้องจ่ายเลย

ที่มา ข่าวสด