นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก.อยู่ระหว่างการประเมินผลผลิตข้าวนาปี 2552/2553 ซึ่งจากที่หลายจังหวัดได้แจ้งข้อมูลให้ทราบถึงสภาพภูมิอากาศที่แล้งผิดปกติ ปริมาณน้ำฝนมีน้อย ทำให้คาดการณ์ว่าข้าวนาปี ซึ่งจะออกมาในช่วงปลายปีนี้ จะประสบความเสียหายสูงมาก ปริมาณจะออกสู่ตลาดต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว

ทั้งนี้ปริมาณข้าวที่ลดลง จะส่งผลให้ราคาในตลาดสูงขึ้น ประกอบกับในขณะนี้เวียดนาม ได้ทำสัญญาขายข้าวหมดแล้ว ขณะที่อินเดียประสบปัญหาภัยแล้ง คาดว่าจะไม่สามารถส่งออกข้าวได้ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ที่จะเสนอขายข้าวในราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้ชาวนาได้รับราคาสูงตามไปด้วย และเป็นผลดีต่อโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาล ที่จะจ่ายค่าชดเชยส่วนต่างต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ หรือเป็นไปได้ที่จะไม่ต้องจ่ายเลย

ส่วนดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ที่ไร่นา เดือนส.ค.อยู่ที่ 123.25 ลดลง 16.47% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ทำให้การส่งออกและการบริโภคภายในประเทศชะลอตัว

สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และกุ้งขาวแวนนาไม ส่วนสินค้าที่ราคาเพิ่มขึ้นได้แก่ สับปะรด สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก.ค.2552 ที่ผ่านมาดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 0.87%

ส่วนดัชนีผลผลิตประจำเดือนส.ค.2552 อยู่ที่ 82.47 เพิ่มขึ้น 0.79% เทียบช่วงเดียวกัน สินค้าที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และไข่ไก่ ส่วนสินค้าที่ผลผลิตลดลงได้แก่ ข้าวนาปรัง มันสำปะหลัง สับปะรดโรงงาน สุกรและไก่

ส่วนสถานการณ์รายสินค้า เช่น ข้าวนาปรัง คาดว่าแนวโน้มราคาที่เกษตรกรขายได้ในเดือนก.ย.จะทรงตัวจากเดือนก่อน แม้ว่าผลผลิตจะลดลงมากแล้ว แต่ระยะนี้เริ่มมีผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาด ราคาข้าวนาปรังความชื้น 14-15% เดือนส.ค.เฉลี่ยตันละ 9,094 บาท ลดลง 10.47% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และลดลง 20.75% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดว่าแนวโน้มราคาที่เกษตรกรขายได้ ในเดือน ก.ย.จะลดลงจากเดือนก่อน เนื่องจากผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14% เดือนส.ค. เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.20 บาทลดลง 19% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และลดลง 39.39% เมื่อเทียบปีก่อน คาดว่าจะมีผลผลิตในเดือนก.ย.นี้ 1.12 ล้านตันหรือ 25.22% ของผลผลิตทั้งหมด

ส่วนมันสำปะหลังแนวโน้มราคาที่เกษตรกรขายได้ในเดือนก.ย. คาดว่าจะยังคงทรงตัว เนื่องจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดในระยะนี้ คุณภาพลดลงจากฝนที่ตกชุก แต่ความต้องการของตลาดยังคงมีอยู่ ราคามันสำปะหลังเดือนส.ค. เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1.24 บาท เพิ่มขึ้น 2.48% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แต่ลดลง 29.55% เมื่อเทียบกับปีก่อน เดือน ก.ย.คาดว่ามีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 1 ล้านตัน

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ