www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ครม.สั่งพาณิชย์ตั้งโต๊ะรับซื้อข้าว


นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้สั่งการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งทำสัญญากับเกษตรกรที่จดทะเบียนและผ่านประชาคมเรียบร้อยแล้ว หลังจากพบว่ามีปัญหามากจนสามารถทำสัญญาได้กว่า 10,000 รายเท่านั้น จากที่มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่จดทะเบียนมากถึง 3 ล้านคน และผ่านประชาคมแล้ว 1.7 ล้านคน จึงเห็นว่าการดำเนินการทำได้น้อยมาก จึงต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด ซึ่ง ธ.ก.ส.ระบุว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์เท่านั้น

นอกจากนี้ ครม.ได้เห็นชอบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว หลังจากพบว่าเกษตรกรไม่สามารถขายข้าวได้ในราคาตลาดเนื่องจากมีกระบวนการกดราคาเกิดขึ้น จึงทำให้รัฐบาลเปิดช่องทางเลือกให้กับเกษตรกรเพื่อให้ได้รับข้าวในราคาที่เป็นธรรมและเป็นไปตามตลาดที่กำหนด รัฐบาลจึงเตรียมตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในราคาอ้างอิงที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ โดยประกาศราคาใดรัฐบาลจะรับซื้อในราคาดังกล่าว โดยมอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อตก.) เข้าไปรับซื้อข้าวโดยตรงจากเกษตรกร ในราคาอ้างอิงที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศไว้ และส่งมอบโรงสีดำเนินการจัดเก็บในรูปแบบข้าวเปลือก และให้จัดเก็บในระยะสั้น ประมาณ 1-2 เดือน ก่อนส่งมอบกรมการค้าต่างประเทศนำไปหาตลาดเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งการรับซื้อข้าวโดยตรงครั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณวงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังไปจัดหาแหล่งเงินทุนให้ โดยรัฐบาลจะเริ่มดำเนินการทันทีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการการเพิ่มสภาพคล่องให้กับโรงสี เพื่อรับซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาที่เหมาะสม โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ประสานงานกับกระทรวงคลัง เป็นเจ้าภาพในการสนับสนุนสินเชื่อให้โรงสี โดยรัฐบาลจะช่วยรับภาระดอกเบี้ยแทนให้ ร้อยละ 2 ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยที่สถานการเงินปล่อยกู้มาให้ ขณะเดียวกันยังจัดตลาดนัดพบระหว่างโรงสีกับเกษตรกรในพื้นที่ 57 จังหวัด จำนวน 519 ครั้ง วงเงินงบประมาณ 11 ล้านบาท การผลักดันการส่งออกข้าวต้นฤดูปี 2553 โดยมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้เจรจาค้าข้าวกับ 7 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ติมอร์ บรูไน อิหร่าน ภายใน 4 เดือน ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) มาตรการรับฝากข้าวเปลือกในยุ้งฉางของเกษตรกรในรูปแบบเดิมที่ ธ.ก.ส. ดำเนินการ โดยกำหนดระยะเวลาตั้งแต่เดือน พ.ย.52 – ก.พ.53 วงเงินกู้ไว้รายละไม่เกิน 2 แสนบาท และคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนให้ โดยใช้วงเงินงบประมาณจากวงเงินกู้เดิม 1.3 แสนล้านบาท ที่ใช้สำหรับการรับจำนำสินค้าเกษตร 3 ชนิดก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้มีเงินหมุนเวียนจากการที่รัฐบาลสามารถขายสินค้าในสตอกออกไปได้บางส่วน ส่วน ธ.ก.ส. คิดค่าบริหารโครงการร้อยละ 4 ต่อปี รวมวงเงิน 742 ล้านบาท ซึ่งมาตรการนี้มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือไม่ให้เกษตรกรนำเข้าออกมาขายเร็ว เพื่อไม่ให้มีปริมาณสินค้าในตลาดมากเกินไป และในขั้นตอนการเก็บรักษาจะจ่ายค่าดูแลรักษาให้เกษตรกร ตันละ 1,000 บาท ด้วย

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ยังมีมาตรการเสริมสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรเกี่ยวกับโครงการประกันรายได้แก่เกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ฤดูการผลิต 2553 ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ ส่วนปัญหาความเดือนร้อนของเกษตรกรบางกลุ่ม ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทัน เนื่องจากสิ้นสุดระยะเวลาการเปิดรับเข้าร่วมโครงการไปแล้ว ที่ประชุมเห็นชอบให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นเกษตรกรที่จดทะเบียน และผ่านการรับรองประชาคมในพื้นที่แล้วเท่านั้น.

ที่มา สำนักข่าวไทย

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.